รมว.ต่างประเทศอิหร่านย้ำ ไม่อาจล้มเลิกโครงการเสริมสมรรถนะนิวเคลียร์

เซย์เยด อับบาส อารักชี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน ให้สัมภาษณ์กับสื่อสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ (21 ก.ค.) ว่า อิหร่าน “ไม่อาจล้มเลิก” โครงการเสริมสมรรถนะนิวเคลียร์ได้ แม้จะได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงจากการโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ ก็ตาม

“โรงงานนิวเคลียร์ของเรา … เสียหายอย่างหนัก ซึ่งขณะนี้องค์กรพลังงานปรมาณูของเรากำลังประเมินระดับความเสียหายอยู่” อารักชีให้สัมภาษณ์ผ่านวิดีโอลิงก์กับสำนักข่าวฟ็อกซ์นิวส์ (Fox News) พร้อมเสริมว่า ความเสียหายดังกล่าวทำให้ขีดความสามารถในการเสริมสมรรถนะของอิหร่านต้องหยุดชะงักไปชั่วคราว

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. กองทัพอากาศสหรัฐฯ ได้ทิ้งระเบิดโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ 3 แห่งของอิหร่านในเมืองนาทานซ์ ฟอร์โดว์ และอิสฟาฮาน โดยกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) ประเมินว่า ผลกระทบครั้งนี้ทำให้โครงการนิวเคลียร์ของเตหะรานต้องล่าช้าไปราว 1-2 ปี

“เราไม่สามารถล้มเลิกการเสริมสมรรถนะได้ เพราะนี่คือความสำเร็จของนักวิทยาศาสตร์ของเราเอง และยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้มันได้กลายเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีของชาติไปแล้ว” อารักชีกล่าว “การเสริมสมรรถนะเป็นสิ่งที่เราหวงแหนอย่างยิ่ง”

การโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ ต่ออิหร่านเกิดขึ้นท่ามกลางความขัดแย้งรุนแรงเป็นเวลา 12 วันระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านเมื่อเดือนที่แล้ว

ความขัดแย้งปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. เมื่ออิสราเอลเปิดฉากโจมตีทางอากาศถล่มเป้าหมายหลายแห่งทั่วอิหร่าน ซึ่งรวมถึงฐานทัพและโรงงานนิวเคลียร์ ส่งผลให้ผู้บัญชาการระดับสูง นักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ และพลเรือนเสียชีวิต

อิหร่านตอบโต้ด้วยการยิงขีปนาวุธและส่งโดรนโจมตีดินแดนอิสราเอลหลายระลอก ทำให้มีผู้บาดเจ็บเสียชีวิตและเกิดความเสียหาย ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในวันที่ 24 มิ.ย.

ผลจากการโจมตีของอิสราเอลส่งผลให้การเจรจานิวเคลียร์ทางอ้อมรอบที่ 6 ระหว่างอิหร่านกับสหรัฐฯ ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นที่โอมานในวันที่ 15 มิ.ย. ต้องถูกยกเลิกไป

หลังการสัมภาษณ์ออกอากาศ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้โพสต์ข้อความบนทรูธโซเชียล (Truth Social) ในช่วงค่ำวันจันทร์ว่า “อับบาส อารักชี รมว.ต่างประเทศอิหร่าน พูดถึงโรงงานนิวเคลียร์อิหร่านว่า ‘เสียหายย่อยยับ ถูกทำลายสิ้น’ แน่นอน มันเป็นอย่างที่ผมบอก และเราจะทำอีกครั้ง หากจำเป็น!”

เมื่อปลายเดือนมิ.ย. วุฒิสภาสหรัฐฯ ได้ลงมติไม่รับร่างกฎหมายที่จะจำกัดอำนาจของประธานาธิบดีในการใช้ปฏิบัติการทางทหารเพิ่มเติมต่ออิหร่าน หากไม่ได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ก.ค. 68)