ออสเตรเลียใจอ่อน ยอมเปิดนำเข้าเนื้อวัวสหรัฐฯ หวังเอาใจทรัมป์

รัฐบาลออสเตรเลียประกาศเจตนาที่จะยกเลิกข้อจำกัดในการนำเข้าเนื้อวัวจากสหรัฐฯ เพื่อบรรเทาความไม่พอใจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ที่เคยออกมาวิจารณ์ว่า มาตรการความปลอดภัยทางชีวภาพของออสเตรเลียเป็นอุปสรรคทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม แม้ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบาเนซี เคยยืนยันก่อนหน้านี้ว่าจะไม่ลดทอนมาตรการความปลอดภัยทางชีวภาพของออสเตรเลียเพียงเพื่อตอบสนองความต้องการของทรัมป์

จูลี คอลลินส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรออสเตรเลีย เปิดเผยในวันนี้ (24 ก.ค.) ว่า รัฐบาลจะยกเลิกข้อจำกัดในการนำเข้าเนื้อแดงที่มีต้นกำเนิดจากแคนาดาหรือเม็กซิโกและนำมาชำแหละในสหรัฐฯ โดยจะมีผลตั้งแต่สัปดาห์หน้า

คอลลินส์ระบุในแถลงการณ์ว่า ตลอดทศวรรษที่ผ่านมาได้มีการประเมินความเสี่ยงและข้อมูลทางวิทยาศาสตร์มาอย่างเข้มงวด และขณะนี้รัฐบาลออสเตรเลียเห็นว่า มาตรการควบคุมที่เข้มงวดของสหรัฐฯ สามารถจัดการความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางชีวภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ ออสเตรเลียเคยสั่งห้ามนำเข้าเนื้อวัวสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2546 หลังพบการระบาดของโรควัวบ้า และเพิ่งจะผ่อนคลายข้อจำกัดบางส่วนในปี 2562

ทรัมป์เคยยกประเด็นที่ออสเตรเลียปฏิเสธนำเข้าเนื้อวัวสหรัฐฯ มาวิจารณ์ว่า “พวกเขายอดเยี่ยม และทุกอย่างยอดเยี่ยม แต่พวกเขากลับแบนเนื้อวัวอเมริกัน ทั้งที่เรานำเข้าเนื้อวัวออสเตรเลียถึง 3 พันล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้วเพียงปีเดียว” โดยสหรัฐฯ ถือเป็นหนึ่งในตลาดส่งออกเนื้อแดงที่ใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย ซึ่งออสเตรเลียส่งออกเนื้อวัวไปสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นถึง 23% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แม้ในปัจจุบันจะมีภาษี 10% สำหรับสินค้าส่งออกของออสเตรเลียไปยังสหรัฐฯ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ก.ค. 68)