
รัฐบาลสหรัฐฯ ได้เปิดตัวแผนแม่บทด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ฉบับใหม่เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (23 ก.ค.) ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อคลายกฎเกณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อม และขยายการส่งออก AI ไปยังประเทศพันธมิตร เพื่อคงความได้เปรียบของอเมริกาเหนือจีนในเทคโนโลยีสำคัญนี้ไว้ ซึ่งอาจส่งผลดีต่อยักษ์ใหญ่ด้านชิปอย่างอินวิเดีย (Nvidia) และเอเอ็มดี (AMD) รวมไปถึงบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านโมเดล AI อย่างกูเกิล (Google), ไมโครซอฟท์ (Microsoft), โอเพนเอไอ (OpenAI) และเมตา (Meta)
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับแผนดังกล่าว โดยเรียกแผนนี้ว่าเป็นการต่อสู้ที่จะกำหนดนิยามของศตวรรษที่ 21 พร้อมประกาศกร้าวว่า “อเมริกาจะเป็นผู้ชนะ”
แผนดังกล่าวไม่ได้มุ่งเพียงการส่งออกซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ AI ของสหรัฐฯ ไปต่างประเทศเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการกวาดล้างกฎหมายในระดับรัฐที่ถูกมองว่าเข้มงวดเกินไป โดยทรัมป์ได้ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหาร 3 ฉบับเมื่อวันพุธ เพื่อนำแผนปฏิบัติการดังกล่าวมาใช้ ซึ่งรวมถึงการผ่อนปรนกฎสิ่งแวดล้อม การวางกฎเกณฑ์สำหรับการส่งออกชิป และการพยายามจำกัดอคติทางการเมืองในเทคโนโลยี AI
ความเคลื่อนดังกล่าวถือว่าสวนทางกับแนวทางของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่จำกัดการเข้าถึงชิป AI จากทั่วโลกอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ระดับสูงในฝ่ายบริหารกล่าวว่า แผน AI นี้ ไม่ได้กล่าวถึงข้อกังวลด้านความมั่นคงของชาติเกี่ยวกับชิป H20 ของอินวิเดีย ซึ่งเป็นชิปที่ใช้ขับเคลื่อนโมเดล AI แม้ทรัมป์จะเคยสั่งบล็อกการส่งออกชิป H20 ไปยังจีนในเดือนเม.ย. แต่ก็อนุญาตให้กลับมาขายได้อีกครั้งเมื่อต้นเดือนนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ก.ค. 68)