
สื่อกัมพูชา Khmer Times รายงานในวันนี้ (24 ก.ค.) ว่า ท่ามกลางสถานการณ์การปะทะที่ทวีความรุนแรงขึ้นตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา กระทรวงกลาโหมกัมพูชาได้ออกแถลงการณ์ขอความร่วมมือประชาชน สื่อมวลชน และผู้ใช้งานโซเชียลมีเดีย ให้งดการเผยแพร่ภาพถ่ายหรือวิดีโอที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวกำลังพล ที่ตั้งหน่วยทหาร หรือยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ
แถลงการณ์ที่ออกมาในวันนี้เน้นย้ำว่า การเผยแพร่ภาพหรือข้อมูลที่ละเอียดอ่อนและยังไม่ผ่านการตรวจสอบอาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ และส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติภารกิจของกองทัพแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ซึ่งกำลังทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของประเทศในพื้นที่พิพาทบริเวณปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควาย
กระทรวงฯ ระบุในแถลงการณ์ว่า “เราขอความร่วมมือมายังสื่อมวลชนทุกแขนงและผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียทุกท่าน โปรดละเว้นการเผยแพร่ภาพ คลิปวิดีโอ หรือข้อมูลใด ๆ ที่ไม่มีแหล่งที่มาที่ชัดเจนและตรวจสอบได้ โดยเฉพาะข้อมูลที่เปิดเผยถึงปฏิบัติการทางทหาร การเคลื่อนย้ายกำลังพล ที่ตั้งหน่วย หรือการวางกำลังอาวุธ” และเสริมว่า “การกระทำดังกล่าวอาจส่งผลเสียต่อปฏิบัติการป้องกันประเทศที่กำลังดำเนินอยู่ และอาจเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อฝ่ายตรงข้ามโดยไม่ได้ตั้งใจ”
แถลงการณ์นี้มีขึ้นหลังจากเหตุการณ์ที่ฝ่ายกัมพูชาระบุว่าเป็นการรุกล้ำอธิปไตยอย่างร้ายแรงโดยกองทัพไทยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยกระทรวงกลาโหมกัมพูชากล่าวหาว่า กองกำลังทหารไทยได้ละเมิดดินแดนกัมพูชาเมื่อเวลาประมาณ 06:30 น. ด้วยการขึ้นไปบนปราสาทตาเมือนธมและวางกำลังทหารไว้โดยรอบ จากนั้นสถานการณ์ได้บานปลายขึ้น มีการใช้โดรนสอดแนม การยิงปืนใหญ่ และการโจมตีทางอากาศในหลายพื้นที่ของจังหวัดอุดรมีชัยและจังหวัดพระวิหาร
ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 08:47 น. กองกำลังกัมพูชาได้ยิงตอบโต้ โดยกระทรวงฯ ระบุว่าเป็นการใช้ “สิทธิอันชอบธรรมในการป้องกันตนเอง” ตามมาตรา 51 แห่งกฎบัตรสหประชาชาติ พร้อมทั้งกล่าวหาว่าฝ่ายไทยใช้อาวุธหนักและกำลังทหารเกินกว่าเหตุเพื่อพยายามยึดครองดินแดนกัมพูชา ซึ่งเป็นการกระทำที่ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ หลักการของอาเซียน และกฎบัตรสหประชาชาติ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ก.ค. 68)