ดาวโจนส์ปิดลบ 316.38 จุด แต่ S&P500 ทำนิวไฮรับผลประกอบการ Alphabet

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (23 ก.ค.) โดยถูกกดดันจากผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทอินเตอร์เนชั่นแนล บิสซิเนส แมชชีน (ไอบีเอ็ม) อย่างไรก็ดี ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ยังคงปิดทำนิวไฮ เนื่องจากผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทอัลฟาเบท (Alphabet) ช่วยให้นักลงทุนมีความหวังว่าผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) รายอื่น ๆ จะแข็งแกร่งด้วยเช่นกัน

  • ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,693.91 จุด ลดลง 316.38 จุด หรือ -0.70%,
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,363.35 จุด เพิ่มขึ้น 4.44 จุด หรือ +0.07% และ
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 21,057.96 จุด เพิ่มขึ้น 37.94 จุด หรือ +0.18%

หุ้นไอบีเอ็ม ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ ร่วงลงเกือบ 8% หลังบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ซบเซาในไตรมาส 2/2568 อันเนื่องมาจากการชะลอตัวของยอดขายในธุรกิจซอฟต์แวร์ ขณะที่หุ้นฮันนีเวลล์ (Honeywell) บริษัทอุตสาหกรรมรายใหญ่ของสหรัฐฯ ร่วงลง 6.2% ทั้งนี้ การดิ่งลงของหุ้นทั้งสองบริษัทเป็นปัจจัยฉุดดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนลบ

อย่างไรก็ดี ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮอย่างต่อเนื่อง หลังจากบริษัทอัลฟาเบทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 2/2568 อยู่ที่ 2.31 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.18 ดอลลาร์ และรายได้อยู่ที่ 9.643 หมื่นล้านดอลลาร์ มากกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 9.4 หมื่นล้านดอลลาร์

อัลฟาเบทยังระบุด้วยว่า บริษัทจะเพิ่มการลงทุนด้าน AI ในปีนี้ เพื่อรองรับความต้องการด้านบริการคลาวด์ที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่าการลงทุนจำนวนมากในการแข่งขันเพื่อครองความเป็นหนึ่งในเทคโนโลยี AI นั้น กำลังให้ผลตอบแทนที่ดี

ทั้งนี้ หุ้นอัลฟาเบทบวก 1% ขณะที่หุ้นไมโครซอฟท์ (Microsoft), อินวิเดีย (Nvidia) และอะเมซอน (Amazon) ต่างก็ปรับตัวขึ้นกว่า 1%

ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่สหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงการค้ากับญี่ปุ่น และสัญญาณที่บ่งชี้ว่าสหรัฐฯ ใกล้จะบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหภาพยุโรป (EU) ขณะเดียวกันนักลงทุนรอดูผลการเจรจาการค้าระหว่างเจ้าหน้าที่จีนและสหรัฐฯ ที่ประเทศสวีเดนในสัปดาห์หน้า โดยสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ได้แสดงความเชื่อมั่นว่าทั้งสองฝ่ายจะเห็นพ้องให้มีการขยายกำหนดเส้นตายการเรียกเก็บภาษีสินค้าจีน จากเดิมที่กำหนดไว้ในวันที่ 12 ส.ค. เพื่อเปิดทางให้สหรัฐฯ และจีนยังสามารถเจรจาข้อตกลงการค้าต่อไป

หุ้นเทสลา (Tesla) ร่วงลง 8.2% หลังบริษัทเปิดเผยกำไรและรายได้ที่ต่ำกว่าคาดในไตรมาส 2/2568 นอกจากนี้ อีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสลายังกล่าวว่า ผลประกอบการของบริษัทในอีกไม่กี่ไตรมาสข้างหน้าอาจได้รับผลกระทบจากต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้น อันเนื่องมาจากรัฐบาลสหรัฐฯ ลดการสนับสนุนผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า

หุ้นยูไนเต็ดเฮลธ์ (UnitedHealth) ซึ่งเป็นบริษัทประกันสุขภาพรายใหญ่ของสหรัฐฯ ร่วงลง 4.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่ากำลังให้ความร่วมมือกับกระทรวงยุติธรรมในการสอบสวนแนวปฏิบัติของยูไนเต็ดเฮลธ์ในโครงการประกันสุขภาพเมดิแคร์ (Medicare) หลังจากมีรายงานว่ากระทรวงยุติธรรมกำลังสอบสวนยูไนเต็ดเฮลธ์ทั้งในทางอาญาและทางแพ่ง

นักลงทุนจับตาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ซึ่งเดินทางเยือนสำนักงานของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในช่วงเช้าตรู่วันนี้ตามเวลาไทย ท่ามกลางความวิตกกังวลว่าการเผชิญหน้ากันระหว่างปธน.ทรัมป์และพาวเวลจะเป็นการกดดันและแทรกแซงความเป็นอิสระในการดำเนินนโยบายของเฟด โดยที่ผ่านมา ปธน.ทรัมป์มักวิพากษ์วิจารณ์พาวเวลจากการที่เฟดยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับสูง

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการรายงานล่าสุด กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ลดลง 4,000 ราย สู่ระดับ 217,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 227,000 ราย

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่เพิ่มขึ้น 0.6% สู่ระดับ 627,000 ยูนิตในเดือนมิ.ย. แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 650,000 ยูนิต จากระดับ 623,000 ยูนิตในเดือนพ.ค.

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ก.ค. 68)