
พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ในฐานะโฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) กล่าวถึงสถานการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในเวลา 08.00 น.ของวันนี้ ทางกัมพูชายังใช้อาวุธหนัก และอาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลโจมตีไทย ทำให้พื้นที่ส่วนหลังที่มีประชาชนชาวบ้านอาศัยอยู่ได้รับผลกระทบ โดยมีโรงพยาบาลเป็นหนึ่งจุดที่ได้รับผลกระทบ
และจากการพิสูจน์ทราบ การปะทะยังคงอยู่ทั้งหมด 12 แห่ง เช่น ช่องบก ช่องอานม้า ชุดตรวจการภูผี ช่องตาเฒ่า เขาพระวิหารบริเวณวัดแก้วฯ พื้นที่ภูมะเขือ ช่องจอม ปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการปะทะกันอยู่จนถึงปัจจุบัน
สำหรับยอดผู้เสียชีวิตฝ่ายไทยตามข้อมูล วันที่ 25 ก.ค.68 ณ เวลา 09.00 น.เป็นพลเรือน 14 ราย บาดเจ็บสาหัส 7 ราย บาดเจ็บปานกลาง 13 ราย บาดเจ็บเล็กน้อย 11 ราย รวมทั้งสิ้น 45 ราย และทางกระทรวงมหาดไทยใน 4 จังหวัด ประกอบด้วย อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ ได้ทำการอพยพประชาชนไปแล้วกว่า 1.3 แสนคน โดยจังหวัดได้จัดเตรียมศูนย์อพยพลี้ภัย ซึ่งสามารถรองรับประชาชนได้กว่า 3 แสนคน และจัดชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน เพื่อดูแลความปลอดภัยให้แก่ประชาชนในพื้นที่ รวมถึงทรัพย์สินของประชาชนด้วย
นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้อพยพผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ออกจากรัศมีของการโจมตีรวมทั้งหมด 11 แห่ง ซึ่งมี 4 แห่ง ได้ปิดทำการไปโดยปริยาย เพราะมีความเสี่ยงต่อการถูกโจมตี ซึ่งผู้ป่วยในรวมทั้งหมดบุคลากรทางการแพทย์มีการอพยพออกจากพื้นที่แล้ว
ทั้งนี้ มีการรายงานไปยัง ครม.และมีมติเห็นชอบไปแล้วเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา คือ ให้กระทรวงการต่างประเทศลดระดับความสัมพันธ์ทางการพูดกับกัมพูชา กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อย่างเต็มที่ และให้กระทรวงการคลังพิจารณามาตรการทางภาษีช่วยเหลือภาคเอกชนและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ก.ค. 68)