หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งผันผวน หลังชายแดนไทย-กัมพูชาตึงเครียด แต่ Fund Flow ยังไหลเข้า จับตาเฟด

นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นเช้านี้คาดผันผวนแต่ยังฟื้นตัวได้อยู่ จากกระแสเม็ดเงินลงทุนต่างชาติที่ยังเข้ามาต่อเนื่อง โดยภาพรวมตลาดวันนี้ จะเป็นการติดตามพัฒนาการเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ผ่านมา ทั้งสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่กลับมามีการปะทะกันเมื่อวานนี้ แต่อาจจะไม่กดดันดัชนีมากนัก นอกจากนี้รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่ได้ปิดกั้นการเจรจาการค้าของไทย และข่าวเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ และจีนได้เจรจาการค้าเสร็จสิ้นที่กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน โดยรายละเอียดนั้นยังไม่ได้แถลงอย่างชัดเจน แต่ทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยถึงการขยายระยะเวลาการระงับภาษีออกไปก่อน รวมถึงตลาดกำลังรอรายงานผลประชุมนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)

แนวโน้มในวันนี้ แนะนำให้ติดตามการรายงานผลประกอบการไตรมาส 2/68 ของ SCC และบริษัทจดทะเบียนอื่น ๆ รวมถึงรอผลประชุมเฟดเช้าวันพรุ่งนี้ด้วยเช่นกัน

โดยให้กรอบแนวรับ 1,220 จุด และแนวต้าน 1,240 จุด

 

ประเด็นพิจารณาลงทุน

 

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (29 ก.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,632.99 จุด ลดลง 204.57 จุด หรือ -0.46%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,370.86 จุด ลดลง 18.91 จุด หรือ -0.30% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 21,098.29 จุด ลดลง 80.29 จุด หรือ -0.38%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลบวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 40,744.53 จุด เพิ่มขึ้น 69.98 จุด หรือ +0.17%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 25,335.21 จุด ลดลง 189.24 จุด หรือ -0.74% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,608.35 จุด ลดลง 1.36 จุด หรือ -0.04%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (29 ก.ค.) 1,233.68 จุด เพิ่มขึ้น 16.53 จุด (+1.36%) มูลค่าซื้อขาย 51,323.28 ล้านบาท

– นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ (29 ก.ค.) 3,405.41 ล้านบาท

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. (29 ก.ค.) เพิ่มขึ้น 2.50 ดอลลาร์ หรือ 3.75% ปิดที่ 69.21 ดอลลาร์/บาร์เรล

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (29 ก.ค.) อยู่ที่ 3.00 เหรียญ/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 32.38/39 แกว่งแคบ รอปัจจัยใหม่หนุนทิศทาง คาดกรอบวันนี้ 32.30-32.50

– ศึกไทย-กัมพูชา กระทบหนักภาคท่องเที่ยว รมว.ท่องเที่ยวฯเผยเร่งทำหนังสือถึงทูตทั่วโลก ยืนยันจุดปะทะไม่เกี่ยวแหล่งท่องเที่ยวหลักๆ หลังพบตัวเลขต่างชาติยกเลิกมาไทยแล้ว 8 พันคน ด้านนายกโรงแรมระบุจันทบุรียกเลิกจองโรงแรมราว 20% เพราะหลายประเทศออกประกาศเตือนพลเมืองของตัวเอง จี้รัฐเร่งทำความเข้าใจนานาชาติ เชียงใหม่ได้รับ เอฟเฟ็กต์ไปด้วยกรุ๊ปทัวร์-สัมมนาเริ่มไม่มา เพราะกังวลความปลอดภัย แม้ไม่ได้อยู่ใกล้จุดปะทะก็ตาม ขณะที่สถานการณ์แรงงานกลุ่มต่างๆ ไม่กระทบมากเพราะมีชาวเมียนมาทดแทนได้ แต่โรงงานหมู-ไก่ยังหาคนทำงานได้ยาก

– “ทรัมป์” เปิดทางไทยเจรจา ภาษีต่อหลังหยุดยิงไทย-กัมพูชา “พิชัย” คาดใกล้ปิดดีล มั่นใจภาษีไม่ถึง 36% หวั่นประกาศภาษีไทยไม่ทันเส้นตาย 1 ส.ค.นี้ ส.อ.ท.หวังสหรัฐตอบแทนไทย ให้ภาษีไม่เกินคู่แข่ง หากไม่ทัน 1 ส.ค. ลุ้นขยายเส้นตายภาษี “หอการค้า” หวังปิดดีลภาษีทันกำหนด มั่นใจข้อเสนอไทย ชี้หากไม่ทันผู้นำเข้าต้องจ่ายภาษีเพิ่ม 36%

– กกร.ชี้เศรษฐกิจเข้าภาวะ Perfect storm อยู่ระหว่างหารือ ร่วมสภาพัฒน์แบงก์ชาติ สศค. จัดทำ มาตรการระยะสั้น-ยาว เตรียมการฟื้นตัวเศรษฐกิจทั้งระบบนิเวศ ทั้งภาคอุตสาหกรรม ภาคบริการ การเงิน ยกระดับแข่งขัน เพิ่มการลงทุนใหม่ สอดรับกติกาการค้าใหม่ “คลัง” ถก “ท่องเที่ยว” ออกมาตรการภาษีกระตุ้นการท่องเที่ยวเพิ่มเติม มุ่งเน้นช่วงโลว์ซีซัน เร่งสรุป ส.ค.-ก.ย.นี้

– “พิชัย” ประเมินผลกระทบปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา เบื้องต้นกว่า 10,000 ล้านบาท เล็งนำงบกระตุ้นเศรษฐกิจที่เหลือใช้ดูแลผลกระทบ เคาะมาตรการช่วยเหลือ 7 จังหวัดชายแดน ด้าน “สรวงศ์” รับท่องเที่ยวถูกกระทบยกเลิกการเดินทาง 8,000 ราย เร่งแจงสร้างความมั่นใจนักท่องเที่ยว

– เอกชนโวยรัฐไร้นโยบายหนุนไฟฟ้าสะอาด ชี้ต่างชาติขน 6 แสนล้านลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์ในไทย ต้องการใช้ไฟสีเขียวถึง 5,000 เมกะวัตต์ ร้องมาแล้ว 3-4 ปีไม่คืบ ส่วนแผน PDP เดี้ยง ถึงปัจจุบันยังไม่ปรับปรุง กำหนดต้องเพิ่มไฟฟ้าหมุนเวียนให้ได้ 51% ภายในปี 2580 แต่ผลิตจริงได้แค่ 26% หวั่นไทยเสียโอกาส นักลงทุนต่างประเทศหนีไปเวียดนาม EEC กระทบมากสุด เร่งบอร์ดปลดล็อก TPA ทำแซนด์บอกซ์ เปิดทางเอกชนผลิตไฟสะอาดใช้เอง

– บีโอไอ เปิดเผยว่า ทีมไทยแลนด์ได้นำเสนอแผนพัฒนาระบบนิเวศของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ให้นักลงทุนจากทั่วโลกรับรู้ว่าประเทศไทย มีความพร้อมและมีศักยภาพสูงในการเป็นฐานการผลิตชิปที่สำคัญของภูมิภาคอาเซียนภายในงานการประชุมใหญ่เซมิคอนดักเตอร์อาเซียน ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เป็นเวทีนานาชาติด้านเซมิคอนดัก เตอร์ที่สำคัญที่สุดของอาเซียน

 

หุ้นเด่นวันนี้

– GFPT (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 13.40 บาทเรามีมุมมองเชิงบวกต่อ GFPT จากตัวเลขของการส่งออกของไก่สดและแช่แข็งในเดือน มิ.ย. เติบโตขึ้น 15.8% YoY หนุนโดยปริมาณการส่งออกที่เติบโตขึ้น ในขณะเดียวกันแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/68 แข็งแกร่งคาดที่ 591 ลบ. เพิ่มขึ้น 1.4% YoY หนุนโดยอัตรากำไรขั้นต้นแต่ลดลง 7.4% QoQ จากกำไรส่วนแบ่งจากบริษัทร่วม (JV) ที่ลดลงแต่แนวโน้มครึ่งหลังปี 2568 คาดว่าราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นประมาณ 6% สำหรับตลาดยุโรป และต้นทุนอาหารสัตว์ที่ลดลงอย่างต่อเนื่องจะเป็นปัจจัยหลักที่สนับสนุนความสามารถการทำกำไรที่แข็งแกร่งในไตรมาส 3/68 และราคากากถั่วเหลืองเฉลี่ยในช่วงต้นเดือนก.ค. 2025 อยู่ที่15.6 บาท/กก. ลดลง 6.1% จากราคาเฉลี่ยในไตรมาส 2/68

– SCC (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 200 บาท เราคาดกำไรปกติไตรมาส 2/68 ฟื้นสดใส 2.76 พันลบ. +151q-q จาก Spread ของผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่ดีขึ้นตั้งแต่ 4-13% q-q ธุรกิจซีเมนต์ได้อานิสงส์จากการขึ้นราคาปูนวิเมนต์ 400 บาท/ตัน ตั้งแต่มี.ค. และ SCGP ที่กำไรฟื้นแรงกว่าเราคาด 12% รวมถึงเป็นฤดูรับเงินปันผลจากการลงทุนในบริษัทต่างๆ กำไรดังกล่าวยังไม่รวมกำไรพิเศษจากการปรับสถานะการลงทุนใน Chandra Asri ซึ่งมีทั้งส่วนที่เป็น non-cash และเป็น cash หากบริษัทขายหุ้นได้ในระยะถัดไป เงินสดจะนำไปคืนหนี้ ลดดอกเบี้ยจ่าย และจะเป็น upside ต่อกำไรและราคาเป้าหมายต่อไป

– WHA (พาย) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 5.30 บาท การขายที่ดินยังทำได้ดี โดยคาดว่าจะออกมาเกินกว่าเป้าที่บริษัทคาดไว้ หลังจากในช่วง ครึ่งแรกปี 68 ทำได้กว่า 1,200 ไร่ และมีการเจรจารอเซ็นสัญญาอีกกว่า 1,400 ไร่ ซึ่งยังไม่รวมลูกค้าในกลุ่ม Data Center ที่มีการเจรจาอีกกว่า 1,000 ไร่

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ก.ค. 68)