ทิสโก้ เสิร์ฟกองทุนใหม่ TGSMART ชูจุดเด่นกระจายสินทรัพย์ลงทุน-ปรับสัดส่วนตามภาวะตลาด

บลจ.ทิสโก้เสนอขายกองทุน ทิสโก้ โกลบอล สมาร์ท แอลโลเคชั่น (TGSMART) ชูจุดเด่นนโยบายลงทุนยืดหยุ่นสูง เพราะเปิดให้ผู้จัดการกองทุนปรับสัดส่วนสินทรัพย์แบบไม่ตายตัว จัดพอร์ตผสมได้ทั่วโลกทั้งหุ้น ตราสารหนี้คุณภาพดี การลงทุนทางเลือกอย่างทองคำ รวมถึงเงินฝาก ช่วยเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนได้ทุกสภาวะตลาด สามารถคาดหวังผลตอบแทนได้มากกว่าการลงทุนในตราสารหนี้ และยังช่วยควบคุมความเสี่ยงจากการลงทุนได้อย่างดี เปิด IPO 30 ก.ค. – 14 ส.ค. 68

นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บลจ.ทิสโก้ เปิดเผยว่า บลจ.ทิสโก้ยังคงเดินหน้านำเสนอทางเลือกการลงทุนที่เพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมกับความเสี่ยงที่ลูกค้า ล่าสุดได้เปิดเสนอขายกองทุนเปิด TGSMART ความเสี่ยงระดับ 5 (เสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง) ลงทุนในกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ทั่วโลก อาทิ หุ้น ตราสารหนี้ และสินทรัพย์ทางเลือก เพื่อให้เงินลงทุนเติบโตและมีเป้าหมายผลตอบแทนจากการลงทุนให้เทียบเท่ากับผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 3 เดือน +5% ต่อปี (ก่อนหักค่าใช้จ่ายกองทุน รวมถึงค่าใช้จ่ายในการ Hedging ความเสี่ยงค่าเงิน) สำหรับรอบระยะเวลาการลงทุน 3 ปีต่อเนื่อง

กองทุน TGSMART มีจุดเด่นคือ เป็นกองทุนที่สามารถคาดหวังผลตอบแทนได้มากกว่าพันธบัตรสหรัฐฯ และยังคงความผันผวนในระดับต่ำ โดยข้อมูลจาก บลจ.ทิสโก้ วันที่ 29 ก.ค. 2568 พบว่า กองทุน TGSMART เข้าลงทุนในกองทุน Schroder ISF Global Target Return C Acc USD (กองทุนหลัก)

โดยทีมผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์สูง สามารถบริหารจัดการกองทุนด้วยนโยบายเชิงรุก เพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีและมีความผันผวนต่ำเพราะกระจายสินทรัพย์การลงทุนได้ทั่วโลกทั้งหุ้น ตราสารหนี้คุณภาพดี การลงทุนทางเลือกอย่างทองคำ รวมไปถึงเงินฝากหรือตราสารเทียบเท่าเงินฝาก

อีกทั้งยังสามารถปรับสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ได้อย่างไม่มีข้อจำกัด โดยเน้นไปที่การจำกัดความเสี่ยงพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมในแต่ละสภาวะตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสถานการณ์ปัจจุบันที่มีความเสี่ยงและความไม่แน่นอนรออยู่มาก

“กองทุน TGSMART สามารถกระจายสินทรัพย์และปรับสัดส่วนได้ตามสภาวะตลาด จึงช่วยสร้างสมดุลระหว่างโอกาสและความเสี่ยง กองทุนหลักบริหารจัดการกองทุนโดยทีมผู้จัดการกองทุนมืออาชีพถึง 18 ท่าน มีหัวหน้าทีมผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์การลงทุนกว่า 20 ปี จึงมั่นใจได้ว่าจะสามารถบริหารจัดการกองทุนให้มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในทุกสภาวะการลงทุน ซึ่งจากสถานการณ์ปัจจุบันที่ยังมีความไม่แน่นอนสูงพบว่า ข้อมูลจาก Schroders ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 กองทุนหลักมีสัดส่วนลงทุนในหุ้น 38.89% ตราสารหนี้ 50.95% สินทรัพย์ทางเลือก 9.94% และเงินฝาก 0.22% อย่างไรก็ตาม กองทุนหลักสามารถปรับสัดส่วนการลงทุนในหุ้นได้ตั้งแต่ 0-75% ตราสารหนี้ได้ตั้งแต่ 0-100% และเงินฝากได้ตั้งแต่ 0-100% จึงมีความยืดหยุ่นสูงกว่ากองทุนผสมอื่นๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน” นายสาห์รัช กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ก.ค. 68)