ทรัมป์เผยสหรัฐฯ ยังเดินหน้าเจรจากับอินเดียต่อไป หลังประกาศรีดภาษี 25%

สหรัฐฯ ประกาศจะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากอินเดียในอัตรา 25% โดยจะมีผลตั้งแต่วันศุกร์นี้ (1 ส.ค.) เป็นต้นไป ตามคำแถลงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวันพุธ (30 ก.ค.) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการกีดกันทางการค้าที่มุ่งเป้าหมายไปยังประเทศที่สหรัฐฯ ขาดดุลการค้า ขณะที่ประเทศต่าง ๆ กำลังเผชิญเส้นตายในการตกลงเรื่องภาษีตอบโต้ภายในวันศุกร์นี้ มิฉะนั้นจะถูกจัดเก็บภาษีนำเข้าตามคำสั่งของทรัมป์ ทั้งนี้ ทำเนียบขาวได้ประกาศนโยบายการค้าอื่น ๆ เพิ่มเติมหลายรายการในวันเดียวกัน

แม้สหรัฐฯ ประกาศอัตราภาษีอย่างชัดเจน แต่ทรัมป์ย้ำว่ายังอยู่ระหว่างการเจรจาการค้ากับอินเดีย โดยระบุว่าอินเดียมีอัตราภาษีสูงมาก และขณะนี้กำลังแสดงความเต็มใจที่จะปรับลดอย่างมีนัยสำคัญ พร้อมระบุว่าสหรัฐฯ กำลังพูดคุยกับอินเดียอยู่ และคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสิ้นสัปดาห์นี้

การเก็บภาษีในอัตรา 25% นี้ถือเป็นมาตรการที่รุนแรงกว่าที่ใช้กับคู่ค้ารายใหญ่อื่น ๆ และอาจบั่นทอนการเจรจาที่ดำเนินมาเป็นเวลาหลายเดือน ซึ่งเสี่ยงกระทบความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ โดยอินเดียถือเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญของสหรัฐฯ และมีบทบาทเป็นกลไกถ่วงดุลกับจีน

ทรัมป์ประกาศมาตรการดังกล่าวผ่านโซเชียลมีเดียในช่วงเช้า โดยระบุว่าจะมีบทลงโทษเพิ่มเติมที่ยังไม่ได้ระบุรายละเอียด ซึ่งเป็นการตอบโต้ต่อการที่อินเดียซื้ออาวุธและน้ำมันจากรัสเซีย รวมถึงใช้อุปสรรคทางการค้าที่ไม่ใช่ตัวเงิน

ต่อมา เมื่อถูกผู้สื่อข่าวถามเกี่ยวกับบทลงโทษเพิ่มเติมที่ยังไม่ชัดเจนดังกล่าว ทรัมป์ชี้แจงว่า เป็นผลจากทั้งประเด็นการค้าและการที่อินเดียเข้าร่วมกลุ่มประเทศ BRICS ซึ่งเขาอธิบายว่าเป็นกลุ่มที่มีท่าทีไม่เป็นมิตรกับสหรัฐฯ

ก่อนหน้านี้ ทรัมป์เคยประกาศว่าสหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติมอีก 10% กับประเทศใดก็ตามที่สนับสนุนแนวนโยบายต่อต้านสหรัฐฯ ของกลุ่ม BRICS

ทั้งนี้ การประกาศเก็บภาษีอินเดีย 25% รวมถึงบทลงโทษที่ยังไม่ชัดเจน อาจทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับอินเดียตึงเครียดยิ่งขึ้น ขณะที่อินเดียเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกและมีบทบาทสำคัญในเวทีเศรษฐกิจโลก

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 ก.ค. 68)