โฆษกกต.กัมพูชาออกโรงปฏิเสธ หลังไทยชี้แจงข้อเท็จจริงต่อคณะทูตนานาชาติ

จุม สุนทรี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศของกัมพูชา (MFAIC) ออกโรงปฏิเสธคำกล่าวของกระทรวงการต่างประเทศของไทยในระหว่างการบรรยายสรุปแก่คณะทูตและองค์การระหว่างประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่กรุงเทพฯ เมื่อวานนี้ (4 ส.ค.) โดยยืนยันว่า กัมพูชาไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มต้นความขัดแย้ง ทั้งยังกล่าวหาไทยว่าเป็นฝ่ายรุกล้ำชายแดน

สำนักข่าวกัมพูชา (AKP) รายงานว่า จุม สุนทรี กล่าวย้ำในระหว่างการแถลงสรุปข่าว ณ กรุงพนมเปญ ช่วงเช้าวันนี้ว่า “กัมพูชาไม่ใช่ฝ่ายเริ่มต้นความขัดแย้ง ตรงกันข้าม เราใช้ความอดกลั้นอย่างถึงที่สุดเมื่อเผชิญกับการยั่วยุทางทหารของไทย ความตึงเครียดชายแดนมีต้นตอมาจากการที่ฝ่ายไทยรุกล้ำดินแดนกัมพูชาหลายครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงที่มีอยู่ ทั้ง MoU ปี 2543 และกฎหมายระหว่างประเทศ”

โฆษกกต.กัมพูชาระบุว่า คำกล่าวของไทยเรื่องการป้องกันตนเองนั้นไม่มีมูล พร้อมย้ำว่ากองทัพกัมพูชาเพียงตอบโต้ตามสมควรแก่เหตุเพื่อปกป้องอธิปไตยและพลเมืองของตน หลังถูกฝ่ายไทยรุกล้ำข้ามพรมแดนและเปิดฉากยิงปืนใหญ่ก่อน

โฆษกยังกล่าวต่อไปด้วยว่า ข้อกล่าวหาของไทยที่ว่ากัมพูชาเผยแพร่ ‘ข้อมูลบิดเบือน’ เป็นเพียงความพยายามเพื่อเบี่ยงเบนประเด็นและปัดความรับผิดชอบต่อการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของตนเอง พร้อมยืนยันว่าการดำเนินงานของกัมพูชาสอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ และไม่เคยตั้งเป้าโจมตีพลเรือน

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชามีขึ้นหลังจากที่วานนี้ กระทรวงการต่างประเทศของไทยได้จัดบรรยายสรุปแก่คณะทูตและองค์การระหว่างประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นการให้ข้อมูลครั้งที่ 2 โดยมีคณะทูต 74 ประเทศ องค์การระหว่างประเทศที่มีสำนักงานในประเทศไทย 16 แห่ง และสหภาพยุโรป (อียู) รวม 121 คนเข้าร่วมรับฟังการบรรยาย

ในระหว่างการบรรยายสรุป นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ และผู้บริหารกระทรวงฯ ได้ร่วมกันชี้แจงท่าทีของประเทศไทย โดยระบุว่า ไทยมีหลักฐานเชิงประจักษ์ที่บ่งชี้ว่ากัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มต้นโจมตีไทยก่อนโดยไม่เลือกเป้าหมาย ซึ่งผู้ช่วยทูตทหารได้เห็นหลักฐานเมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2568 อีกทั้งการตอบโต้ของไทยทุกครั้งเป็นการใช้สิทธิ์ป้องกันตัวเองโดยชอบธรรมตามกฎบัตรของสหประชาชาติ เพื่อปกป้องประชาธิปไตย บูรณภาพดินแดน และความปลอดภัยของประชาชน ซึ่งเป็นการตอบโต้ที่ได้สัดส่วนตามกฎหมายระหว่างประเทศ และมุ่งเป้าไปยังพื้นที่ทางการทหารเท่านั้น

นอกจากนี้ ไทยยังขอเรียกร้องให้กัมพูชายุติการบิดเบือนข้อมูลและข่าวสาร ซึ่งการกระทำที่ไร้ความรับผิดชอบเป็นอุปสรรคที่เอื้อต่อการฟื้นฟูความไว้เนื้อเชื่อใจ และทำให้ความขัดแย้งขยายวงไปสู่ประชาชนของทั้งสองประเทศ

ขณะเดียวกัน สื่อกัมพูชารายงานด้วยว่า กระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชายังได้ประณามการยั่วยุอย่างต่อเนื่องของกองทัพไทย และเรียกร้องให้ไทยเคารพอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา โดยเรียกร้องให้ไทยยุติการยั่วยุทางทหารและการกระทำฝ่ายเดียวทั้งหมดที่คุกคามความปลอดภัยของพลเรือนและเสี่ยงทำให้สถานการณ์บานปลาย, พิสูจน์คำมั่นสัญญาเรื่องสันติภาพด้วยการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม โดยยึดมั่นตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และละเว้นจากการกระทำที่จะยิ่งเพิ่มความตึงเครียดและการเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือน ซึ่งคุกคามเสถียรภาพที่เปราะบางตามแนวชายแดน

กัมพูชาย้ำว่ายังคงยึดมั่นในข้อตกลงหยุดยิงที่ทำร่วมกันที่มาเลเซีย และจะเดินหน้าเจรจาอย่างสุจริตผ่านกลไกของอาเซียนต่อไป

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ส.ค. 68)

ข่าวล่าสุด