
เจ้าหน้าที่ระดับสูง 3 คนของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวของตลาดแรงงานสหรัฐฯ ซึ่งส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ที่ว่าเฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.
ความกังวลในเรื่องดังกล่าวมีขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นเพียง 73,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 106,000 ตำแหน่ง พร้อมกับปรับตัวเลขการจ้างงานในเดือนมิ.ย.เป็นเพิ่มขึ้นเพียง 14,000 ตำแหน่ง จากเดิมรายงานว่าเพิ่มขึ้นมากถึง 147,000 ตำแหน่ง และปรับตัวเลขการจ้างงานในเดือนพ.ค.เป็นเพิ่มขึ้นเพียง 19,000 ตำแหน่ง จากเดิมรายงานว่าเพิ่มขึ้นมากถึง 125,000 ตำแหน่ง
แมรี ดาลี ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก กล่าวในงานเสวนาซึ่งจัดขึ้นที่เมืองแองเคอเรจ รัฐอะแลสกา ในวันพุธ (6 ส.ค.) ว่า เฟดอาจจำเป็นต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เพื่อป้องกันไม่ให้การจ้างงานแย่ลงไปอีก
ดาลีกล่าวว่า ตลาดแรงงานสหรัฐฯ อ่อนแอลง และหากตลาดชะลอตัวลงอีกก็ถือเป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้ ด้วยเหตุนี้ เธอจึงเห็นว่าเฟดน่าจะต้องปรับนโยบายการเงินในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
ลิซา คุก หนึ่งในสมาชิกคณะผู้ว่าการเฟด กล่าวถึงตัวเลขจ้างงานเดือนก.ค. รวมถึงการปรับลดตัวเลขจ้างงานเดือนมิ.ย.และพ.ค. โดยระบุว่า การปรับแก้ตัวเลขจ้างงานดังกล่าวถือเป็นเรื่องปกติในช่วงพลิกผันทางเศรษฐกิจ
ทางด้านนีล แคชคารี ประธานเฟดสาขามินนิแอโพลิส ให้สัมภาษณ์กับสื่อในวันเดียวกัน โดยเขาได้แสดงความกังวเกี่ยวกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจในหลายภาคส่วน พร้อมกับให้ความเห็นว่า ในระยะสั้น การเริ่มปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดอาจเป็นเรื่องที่เหมาะสม
นอกจากนี้ แคชคารีคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งก่อนสิ้นปี 2568
ในการประชุมครั้งหลังสุดเมื่อวันที่ 30 ก.ค. คณะกรรมการเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25%-4.50% ส่วนการประชุมครั้งต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 16-17 ก.ย. และหลังจากนั้นเฟดจะประชุมอีก 2 ครั้งในปีนี้ คือในวันที่ 28-29 ต.ค. และวันที่ 9-10 ธ.ค.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ส.ค. 68)