C3S เผย ก.ค. 68 เคาะสถิติเดือนกรกฎาที่ร้อนสุดอันดับ 3 แม้เย็นลงจากปีก่อนหน้า

โคเปอร์นิคัส (Copernicus Climate Change Service – C3S) ซึ่งเป็นหน่วยงานติดตามสภาพอากาศของสหภาพยุโรป (EU) เปิดเผยรายงานล่าสุดในวันนี้ (7 ส.ค.) ว่า เดือนก.ค. ปี 2568 ที่ผ่านมา ถือเป็นเดือนก.ค. ที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์อันดับ 3 แม้จะถือว่าเย็นลงเล็กน้อยจากอุณหภูมิที่ร้อนทำลายสถิติอย่างไม่เคยมีมาก่อนในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังสะท้อนให้เห็นว่าแนวโน้มภาวะโลกร้อนยังคงน่าเป็นห่วง

รายงานระบุว่า อุณหภูมิอากาศพื้นผิวเฉลี่ยทั่วโลกในเดือนก.ค. 2568 อยู่ที่ 16.68 องศาเซลเซียส ซึ่งต่ำกว่าเดือนก.ค. 2566 (เดือนก.ค. ที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์) อยู่ 0.27 องศา และต่ำกว่าเดือนก.ค. 2567 (เดือนก.ค. ที่ร้อนที่สุดอันดับ 2) อยู่ 0.23 องศา อย่างไรก็ดี ตัวเลขดังกล่าวยังคงสูงกว่าค่าเฉลี่ยในยุคก่อนปฏิวัติอุตสาหกรรม (ช่วงปี 2393-2443) ถึง 1.25 องศาเซลเซียส

ความร้อนแผ่กระจายไปทั่วทุกทวีป โดยเฉพาะในยุโรปซึ่งมีอุณหภูมิพื้นดินเฉลี่ยสูงถึง 21.12 องศาเซลเซียส ทำให้เป็นเดือนก.ค. ที่ร้อนที่สุดเป็นอันดับ 4 ของทวีป

จากข้อมูลของ C3S พื้นที่ที่อุณหภูมิสูงผิดปกติและรุนแรงที่สุดคือภูมิภาคเฟนโนสแกนเดีย (Fennoscandia) ซึ่งประกอบด้วยสวีเดนและฟินแลนด์ ที่ต้องเผชิญกับคลื่นความร้อนรุนแรง ขณะที่ประเทศทางตะวันออกเฉียงใต้ของยุโรปก็เผชิญทั้งคลื่นความร้อนและไฟป่าเช่นกัน

ในทางกลับกัน รายงานยังพบว่ามีบางพื้นที่ที่อุณหภูมิต่ำกว่าค่าเฉลี่ย เช่น บางส่วนของอเมริกาเหนือ, อเมริกาใต้, อินเดีย, ออสเตรเลียส่วนใหญ่ และบางภูมิภาคในแอฟริกาและแอนตาร์กติกา

นอกจากอุณหภูมิบนบกแล้ว C3S ยังชี้ว่าปริมาณน้ำแข็งในทะเลบริเวณขั้วโลกทั้งสองยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอย่างมาก โดยน้ำแข็งในทะเลอาร์กติก (ขั้วโลกเหนือ) มีปริมาณต่ำกว่าปกติ 10% ซึ่งเป็นสถิติต่ำสุดร่วมเป็นอันดับ 2 ในรอบ 47 ปี ขณะที่น้ำแข็งในทะเลแอนตาร์กติก (ขั้วโลกใต้) ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 8% ซึ่งต่ำที่สุดเป็นอันดับ 3

การ์โล บูออนเต็มโป ผู้อำนวยการของ C3S กล่าวสรุปสถานการณ์ว่า “สองปีหลังจากที่เรามีเดือนก.ค. ที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ มาถึงตอนนี้ สถิติอุณหภูมิโลกที่พุ่งสูงต่อเนื่องได้จบลงชั่วคราว แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้หยุดลงแล้ว”

บูออนเต็มโปย้ำว่า โลกยังคงเห็นผลกระทบจากภาวะโลกร้อนอย่างต่อเนื่องในเดือนก.ค. ทั้งคลื่นความร้อนสุดขั้วและอุทกภัยร้ายแรง จึงขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเตรียมพร้อมรับมือให้มากขึ้น พร้อมกับเตือนว่า หากเราไม่สามารถลดความเข้มข้นของก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศได้อย่างรวดเร็ว ก็คาดหมายได้เลยว่าเราจะเผชิญกับอุณหภูมิสูงทำลายสถิติใหม่และผลกระทบที่เลวร้ายยิ่งกว่าเดิม

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ส.ค. 68)