โตโยต้าหั่นคาดการณ์กำไรสุทธิปีงบ 68 กังวลผลกระทบทรัมป์ขึ้นภาษีรถยนต์

บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป (Toyota Motor Corp.) ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิในปีงบการเงิน 2568 ซึ่งสิ้นสุดเดือนมี.ค.ปีหน้า โดยคาดว่ากำไรสุทธิจะลดลง 44.2% สู่ระดับ 2.66 ล้านล้านเยน (1.8 หมื่นล้านดอลลาร์) เนื่องจากผลกระทบของการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ปรับขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา โตโยต้าคาดการณ์ว่ากำไรสุทธิจะลดลง 34.9% สู่ระดับ 3.1 ล้านล้านเยน ซึ่งสะท้อนถึงผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากรสำหรับช่วงเวลา 2 เดือนที่นับจนถึงเดือนพ.ค. ส่วนการคาดการณ์ตลอดปีงบการเงิน 2568 นั้น โตโยต้าประมาณการว่าการที่สหรัฐฯ ปรับขึ้นภาษีรถยนต์นำเข้าจากญี่ปุ่นจะส่งผลให้กำไรจากการดำเนินงานของบริษัทลดลง 1.4 ล้านล้านเยน

ในการประมาณการล่าสุดนี้ โตโยต้าได้พิจารณาปัจจัยจากการที่ญี่ปุ่นบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ เพื่อปรับลดภาษีสินค้านำเข้าจากญี่ปุ่นลงเหลือ 15% จากระดับ 27.5% ที่สหรัฐฯ ประกาศไว้ในเดือนเม.ย. แม้จะยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการบังคับใช้อัตราภาษีใหม่ก็ตาม

โตโยต้าระบุว่า ทางบริษัทคาดการณ์โดยตั้งสมมติฐานว่า ภาษีนำเข้ารถยนต์ในอัตรา 27.5% ซึ่งรวมถึงภาษี 2.5% ที่สหรัฐฯ เรียกเก็บก่อนที่ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่งนั้น ถูกบังคับใช้ตั้งแต่เดือนเม.ย.ถึงเดือนก.ค. และลดลงเหลือ 15% ตั้งแต่เดือนส.ค.จนถึงเดือนมี.ค.ปีหน้า

สำหรับการประมาณการผลประกอบการประจำปีงบการเงิน 2568 ล่าสุด โตโยต้าคาดว่ากำไรจากการดำเนินงานจะอยู่ที่ 3.2 ล้านล้านเยน ลดลง 33.3% จากปีก่อนหน้า จากยอดขายซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ 48.5 ล้านล้านเยน เพิ่มขึ้น 1.0%

ส่วนผลประกอบการในไตรมาสเดือนเม.ย.-มิ.ย. โตโยต้าระบุว่าบริษัทมีกำไรสุทธิลดลง 36.9% สู่ระดับ 8.4135 แสนล้านเยน ขณะที่ยอดขายเพิ่มขึ้น 3.5% สู่ระดับ 12.25 ล้านล้านเยน

นอกจากนี้ โตโยต้ายังเปิดเผยในวันนี้ว่า บริษัทมีแผนจะจัดตั้งโรงงานผลิตรถยนต์แห่งใหม่ในจังหวัดไอจิ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงต้นคริสต์ทศวรรษ 2030 โดยแผนดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อรักษากำลังการผลิตรถยนต์ในญี่ปุ่นไว้ที่ 3 ล้านคัน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ส.ค. 68)