กองทัพภาคที่ 2 โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า เวลา 10.00 น. ร้อย.ร.111 ได้นำกำลังพลลาดตระเวนเส้นทางเพื่อวางลวดหนามป้องกัน
ปัจจุบันได้นำกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลในพื้นที่เรียบร้อยแล้ว

พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวอาจทำให้สังคมทั้งในประเทศและต่างประเทศเห็นได้ชัดว่า การใช้อาวุธต่อกันในพื้นที่ชายแดนยังคงมีอยู่ในลักษณะการซ่อนรูป และถือเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืน อนุสัญญาออตตาวา ของฝ่ายกัมพูชาอย่างชัดเจน
สอดคล้องกับการที่กองทัพบกได้รับรายงานเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2568 ที่หน่วยทหารช่างได้ดำเนินการเคลียร์พื้นที่และเสริมความมั่นคงบริเวณภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเคยเป็นที่มั่นของฝ่ายทหารกัมพูชา
โดยจากการตรวจสอบพบ ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิด PMN-2 จำนวน 18 ทุ่น โดย 16 ทุ่น บรรจุในกระสอบ ยังไม่อยู่ในสภาพพร้อมระเบิด และ 2 ทุ่น วางแบบเร่งด่วนโดยไม่ฝังกลบ อยู่ในสภาพพร้อมระเบิด หน่วยทหารช่างได้เก็บกู้ครบทั้ง 18 ทุ่นแล้ว นอกจากนี้ยังตรวจพบลูกกระสุนเครื่องยิงลูกระเบิดและลูกจรวด RPG จำนวนมาก
โฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า การกระทำดังกล่าวเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการดำเนินมาตรการหยุดยิงและการแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี อีกทั้งยังตอกย้ำว่าที่ผ่านมา กัมพูชามีลักษณะเป็นฝ่ายริเริ่มใช้อาวุธก่อนมาโดยตลอด ด้วยหลักฐานเชิงประจักษ์ดังกล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ส.ค. 68)