ไทย-กัมพูชา: รัฐบาลลั่น! เยียวยาผู้รับผลกระทบต้องไม่ตกหล่น จ่อชงช่วยเหลือล็อต 2 เข้าครม.

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลขอยืนยันว่ามีความพร้อมในการเยียวยาพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 5 ส.ค.68 ในกรณีผู้เสียชีวิตที่เป็นประชาชนทั่วไปรายละ 8 ล้านบาท และข้าราชการทหาร-ตำรวจ รายละ 10 ล้านบาท

นอกจากนี้ ผู้ที่ได้รับผลกระทบในระดับต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบาดเจ็บสาหัส บาดเจ็บเล็กน้อย ทุพพลภาพ ก็จะได้รับการเยียวยาเช่นกัน โดยไม่มีการตกหล่นจากมาตรการเยียวยาดังกล่าวอย่างแน่นอน

“นอกจากมาตรการตาม มติครม.ดังกล่าวแล้ว หน่วยงานราชการต้นสังกัด อย่างกระทรวงกลาโหม จะดูแลครอบครัวญาติพี่น้องของข้าราชการทหารที่เสียชีวิต ให้ได้รับสวัสดิการต่าง ๆ สิทธิการรับราชการเป็นกรณีพิเศษ เพื่อตอบแทนคุณความดี ที่ได้เสียสละชีวิตรักษาอธิปไตยของประเทศ” นายจิรายุระบุ

สำหรับการเยียวยาบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหายนั้น การลงพื้นที่ของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี, นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ และน.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี ที่ จ.สุรินทร์ วานนี้ (9 ส.ค.) เป็นการเดินทางลงไปทำงานกับท้องถิ่นโดยตรง เพื่อรับฟังข้อมูล ข้อเสนอแนะ ทั้งจากประชาชน และผู้ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ เพื่อนำมากำหนดแนวทางการเยียวยา ทั้งในด้านความเสียหายทางการเกษตร ปศุสัตว์ และบ้านเรือนของประชาชน เพื่อรวบรวมกำหนดออกเป็นรายละเอียดในการเยียวยาครั้งที่ 2 ในส่วนทรัพย์สินที่เสียหาย เพื่อเสนอต่อ ครม.ต่อไป

นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้มอบหมาย 7 รัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมประชาชนในพื้นที่พักพิงชั่วคราวทั้งหมด 12 แห่ง 4 จังหวัด ได้แก่ สุรินทร์ ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี เพื่อเร่งรัดมาตรการช่วยเหลือ เยียวยา ตั้งแต่เมื่อวานนี้ อาทิ น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ และวันนี้ นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.แรงงาน จะลงพื้นที่ จ.สุรินทร์, นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยนางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ, นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รมช.ศึกษาธิการ ลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ และ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี

สำหรับเรื่องการเยียวยา ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ที่ปั๊ม ปตท. บ้านผือ อ.กันทรลักษณ์ ที่ได้รับเสียหายจากผลกระทบการยิงระเบิด BM-21 จากฝั่งกัมพูชานั้น สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้แจ้งว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่ภาวะสงคราม เป็นเหตุการณ์ปะทะตามชายแดนเท่านั้น ดังนั้น บริษัทประกันฯ จะปฏิเสธการคุ้มครองไม่ได้ ต้องรับผิดชอบเยียวยาผู้เสียหายที่ได้ทำประกัน

“สำหรับประชาชนคนใด ที่ได้ทำประกันภัยไว้ ขอให้เร่งตรวจสอบสิทธิประโยชน์ของตนอีกครั้ง” นายจิรายุ ระบุ

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ส.ค. 68)