
EA ร่วง 6.43% มาที่ 2.62 บาท ลดลง 0.18 บาท มูลค่าซื้อขาย 153.09 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.09 น. จากราคาเปิด 2.66 บาท ราคาสูงสุด 2.70 บาท ราคาต่ำสุด 2.62 บาท
บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ [EA] เปิดเผยว่า ผลประกอบการในไตรมาส 2/68 มีผลขาดทุนสุทธิ 721.45 ล้านบาท จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (YoY) ที่มีกำไรสุทธิ 541.74 ล้านบาท และจากไตรมาส 1/68 (QoQ) ที่มีกำไรสุทธิ 252.33 ล้านบาท แต่หากไม่รวมรายการพิเศษ มีผลขาดทุนสุทธิ 43.92 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าและจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 736.15 ล้านบาท (-<100% QoQ) และ 680.52 ล้านบาท (-<100% YoY)
รายได้รวมไตรมาสนี้เท่ากับ 3,286.98 ลดลง 26.8% YoY และ ลดลง 6.3% QoQ ส่งผลให้กำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ไม่รวมรายการพิเศษ มาที่ 1,493.55 ล้านบาท ลดลง 29.2% YoY และ ลดลง 25.6% QoQ แต่หากรวมรายการพิเศษ EBITDA อยู่ที่ 763.87 ล้านบาท ลดลง 59.6% YoY และ ลดลง 49.36% QoQ
เนื่องจากการรับรู้รายได้ลดลงจากธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน โดยในส่วนของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่สิ้นสุดสิทธิ Adder ของโรงไฟฟ้าลำปาง ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ลดลงตามฤดูกาล และจากธุรกิจแบตเตอรี่ สำหรับธุรกิจรถโดยสารไฟฟ้าและรถเพื่อการพาณิชย์มีรายได้เพิ่มขึ้น 54% และธุรกิจไบโอดีเซลมีการเพิ่มขึ้นมากกว่า 100%
นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทตั้งสำรองสินค้าคงเหลือกลุ่มแบตเตอรี่ที่กระทบกำไร (ขาดทุน) สุทธิส่วนของบริษัทใหญ่เป็นมูลค่า 88.93 ล้านบาท เป็นผลมาจากการที่ราคาตลาดของผลิตภัณฑ์แบตเตอรี่มีการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการแข่งขันสูงขึ้น การตั้งสำรองนี้สะท้อนความระมัดระวังของฝ่ายบริหารในการประเมินมูลค่าสินทรัพย์และเพื่อให้มั่นใจว่างบการเงินแสดงฐานะที่แท้จริงและเป็นปัจจุบัน
ทั้งนี้ ในไตรมาส 2/68 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 1/68 บริษัทมีต้นทุนจากการขายและการให้บริการ เพิ่มขึ้น 13.8% ค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น 29.2% โดยหลักมาจากการได้มาจากการรวมธุรกิจที่ดำเนินการสำเร็จ จากการทยอยซื้อ บมจ.เน็กซ์พอยท์ [NEX] ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายครั้งเดียว เปลี่ยนสถานะของ NEX จากเงินลงทุนในบริษัทร่วมเป็นเงินลงทุนในบริษัทย่อย ถือว่าเป็นการรวมธุรกิจ ต้องวัดมูลค่าของส่วนได้เสียที่ถืออยู่ก่อนที่จะมีอำนาจควบคุม NEX โดยใช้มูลค่ายุติธรรม ณ วันที่ซื้อ ส่งผลให้รับรู้การขาดทุนจำนวน 393.37 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทมีผลขาดทุนที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากลูกหนี้การค้าในไตรมาสที่ 2 เพิ่มขึ้นมากกว่า 100% โดยสาเหตุหลักเพิ่มขึ้นจากการตั้งสำรองที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากลูกหนี้การค้าของกลุ่มบริษัท ไทยสมายบัส จำกัด ซึ่งเป็นการปรับปรุงรายการทางบัญชีที่ไม่ใช่เงินสด (non-cash items)
ในส่วนธุรกิจผลิตรถโดยสารไฟฟ้าและรถไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์ ดำเนินการผ่านบริษัท แอ๊บโซลูท แอสเซมบลี จำกัด (AAB) โดยได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI พร้อมสิทธิประโยชน์ทางภาษี โดยให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสามารถนำค่าใช้จ่ายในการลงทุนยานยนต์ไฟฟ้ามาหักลดหย่อนภาษีได้ถึง 2 เท่าสำหรับรถที่ผลิตหรือประกอบในประเทศไทย ในไตรมาส 2 บริษัทฯ ได้มีการส่งมอบยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ในครึ่งปีแรกไปแล้ว 80 คัน รวมถึงมีแผนในการส่งมอบต่อเนื่องอีกกว่า 200 คันในไตรมาส 3/68
ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 68 กลุ่มบริษัทฯ มีกำไรสุทธิส่วนของผู้ถือหุ้นใหญ่ (ไม่รวมรายการพิเศษ)จำนวน 648.31 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนจำนวน 877.00 ล้านบาท หรือคิดเป็น (-57.5% YoY)
โดยบริษัทฯยังคงมีเงินสดสุทธิได้มาจากกิจกรรมดำเนินงานรอบ 6 เดือนอยู่ที่ 4,400 ล้านบาท
“EA มีความเชื่อมั่นว่าจะมีการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในไตรมาสที่ 3 ของปี 2568 หลังจากปรับโครงสร้างการชำระหนี้หุ้นกู้ และแก้ไขปัจจัยชั่วคราวที่ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานในไตรมาสที่สอง”
บริษัทฯ มีเป้าหมายสู่การเป็นผู้ให้บริการโซลูชันการขนส่งสีเขียวแบบครบวงจร (Total Green Logistics Solution) ซึ่งครอบคลุมทั้งการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า การบริการหลังการขาย ตลอดจนการให้บริการและอำนวยความสะดวกในการติดตั้งระบบชาร์จไฟฟ้าแบบเร็ว (Fast Charging Technology)
ในส่วนของธุรกิจกำจัดขยะและโรงไฟฟ้าขยะ บริษัทฯ มองเห็นศักยภาพการเติบโตของธุรกิจจัดการขยะอย่างยั่งยืนโดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลิตไฟฟ้าจากขยะ ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางตามแผนพัฒนาพลังงานทดแทนของประเทศ ในปัจจุบันบริษัทฯ มีการดำเนินโครงการกำจัดขยะสำคัญในหลายพื้นที่ ได้แก่ โครงการกำจัดขยะมูลฝอยชุมชนบนเกาะล้าน เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี โครงการกำจัดขยะมูลฝอยและโรงไฟฟ้าจากขยะ จังหวัดภูเก็ต และโครงการกำจัดขยะมูลฝอยและโรงไฟฟ้าจากขยะ จังหวัดปทุมธานี
EA ได้รับการยอมรับในระดับโลกสำหรับความพยายามด้านความยั่งยืนติดอันดับใน 10% แรกของบริษัทไฟฟ้าทั่วโลกโดย S&P Global Yearbook 2025 ซึ่งเน้นความเป็นเลิศในการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ในระดับสากล โดยเป็น 1 ใน 2 บริษัทจากไทยที่ได้รับการจัดให้อยู่ในระดับสูงสุดในกลุ่มอุตสาหกรรมสาธารณูปโภคไฟฟ้าในปีนี้
EA พร้อมเดินหน้าพัฒนาธุรกิจในทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ยานยนต์ไฟฟ้า ระบบกักเก็บพลังงาน และโครงการโรงไฟฟ้าและโรงกำจัดขยะ พร้อมกับดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส รับผิดชอบ และมีธรรมาภิบาล และสร้างสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนให้แก่ผู้ถือหุ้นในทุกมิติอย่างต่อเนื่อง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ส.ค. 68)