
สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กล่าวกับ Bloomberg Television ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจาก BOJ ดำเนินการล่าช้าในการรับมือกับความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ ซึ่งนับเป็นความคิดเห็นที่ชัดเจนที่สุดของเบสเซนต์เกี่ยวกับนโยบายการเงินของญี่ปุ่น
เบสเซนต์ระบุว่า ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ กำลังได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์ต่างประเทศ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปีได้รับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนระยะยาวที่เพิ่มขึ้นในญี่ปุ่นและเยอรมนี
เบสเซนต์กล่าวว่า เขาได้พูดคุยกับ คาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการ BOJ และระบุเสริมว่า “นี่คือความคิดเห็นของผม ไม่ใช่ของเขา พวกเขาล่าช้าอยู่ ดังนั้นพวกเขาจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย” แม้ไม่ได้ระบุว่าจะปรับขึ้นเมื่อใดก็ตาม
ทั้งนี้ ความคิดเห็นของเบสเซนต์แตกต่างจากท่าทีของอุเอดะ ซึ่งปฏิเสธความเห็นที่ว่า BOJ ปรับขึ้นดอกเบี้ยช้าเกินไป และอาจสายเกินไปในการสกัดกั้นเงินเฟ้อที่สูงเกินไป
อุเอดะระบุว่า BOJ พร้อมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง แต่การปรับขึ้นล่าช้าเป็นเรื่องสมเหตุสมผล เนื่องจากเงินเฟ้อพื้นฐานซึ่งเน้นที่ความต้องการภายในประเทศและค่าจ้างยังต่ำกว่าเป้าหมายของ BOJ
การปรับนโยบายอย่างช้า ๆ ของ BOJ ถูกนักวิเคราะห์บางคนมองว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เงินเยนอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ต้นทุนการนำเข้าสูงขึ้นและเงินเฟ้อโดยรวมเพิ่มสูงขึ้น
BOJ มีกำหนดประชุมนโยบายครั้งต่อไปในเดือนก.ย. ก่อนประชุมอีกครั้งในเดือนต.ค. ซึ่งจะมีการทบทวนคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อรายไตรมาส
เบสเซนต์ซึ่งดูแลการเจรจาด้านการค้าและอัตราแลกเปลี่ยนกับญี่ปุ่น ได้แสดงความชัดเจนหลายครั้งว่า เขาต้องการให้ BOJ ดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น
ในรายงานด้านอัตราแลกเปลี่ยนต่อรัฐสภาเมื่อเดือนมิ.ย. กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุว่า BOJ ควรปรับนโยบายการเงินให้เข้มงวดต่อเนื่อง เพื่อให้ค่าเงินเยนกลับเข้าสู่ภาวะปกติ หลังจากที่เยนอ่อนค่าอย่างผิดปกติในช่วงที่ผ่านมา
นอกจากนี้ เบสเซนต์ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์นิกเกอิว่า ค่าเงินจะปรับตัวได้ ตราบใดที่ BOJ มุ่งเน้นไปที่พื้นฐานทางเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และการเติบโต
ทั้งนี้ BOJ ได้ยกเลิกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ใช้มากว่าทศวรรษในปีที่ผ่านมา และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเป็น 0.5% ในเดือนม.ค. เนื่องจากเห็นว่าญี่ปุ่นใกล้บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% อย่างยั่งยืน
ในการประชุมนโยบายเดือนก.ค. BOJ คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม แต่ปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อและมุมมองเศรษฐกิจในแง่ดีมากขึ้น ทำให้ตลาดยังคาดหวังเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้
อุเอดะกล่าวว่า “ผมไม่คิดว่าเราล่าช้า หรือมีความเสี่ยงสูงที่จะล่าช้า” พร้อมระบุว่า แม้ค่าจ้างและเงินเฟ้อภาคบริการเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่ใช่อัตราที่น่ากังวล
ส่วนผลสำรวจที่มีการจัดทำขึ้นในเดือนที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่า นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่า BOJ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งภายในสิ้นปีนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ส.ค. 68)