ท้องฟ้าสดใสเขียวขจี ทั้งบิทคอยน์ก็ทำราคา ATH ครั้งใหม่ Ethereum ก็ยืนเหนือ 4,700 ดอลลาร์ เป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี ทำเอาสาวกคริปโทฯ มีความสุขกันถ้วนหน้า ใครที่ยังไม่มีคริปโทเคอร์เรนซีในพอร์ตการลงทุน อาจจะเริ่มวันนี้ก็ยังไม่สาย!!
เริ่มกันด้วยข่าวดี ท้องฟ้าเขียวขจีกัน เพราะว่า Bitcoin ทำราคา All time high ส่วน Ethereum ก็พุ่งทะยานขึ้น อยู่ระดับ 4,700 ดอลลาร์เข้าไปแล้ว
โดยบิทคอยน์เช้านี้ที่กระดาน BinanceTH ทำราคาแตะ 124,474 ดอลลาร์ ส่วน Ethereum ไม่น้อยหน้า!! เมื่อวานนี้ 4,767 ดอลลาร์ ถือว่าแตะระดับ 4,700 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกตั้งแต่ พ.ย. 2021 โดยข้อมูล on chain บอกว่ามีแรงซื้อจากฝั่งสถาบันกว่า 27,000 ล้านดอลลาร์ในวันเดียว คิดเป็น 40% ของ supply ทั้งหมดบนกระดานเทรด
สิ่งที่น่าสนใจคือการพุ่งขึ้นครั้งนี้แตกต่างจากรอบก่อนหน้าในปี 2021 อย่างมาก เพราะแรงขับเคลื่อนหลักมาจาก ตลาดสปอต (Spot Market) แทนที่จะเป็นการเก็งกำไรด้วยเลเวอเรจสูง ทำให้โครงสร้างตลาดดูแข็งแรงขึ้น ขณะเดียวกัน กิจกรรมบนเครือข่าย Layer 2 เช่น Arbitrum และ Optimism ก็กำลังทำสถิติใหม่ด้านธุรกรรม และ ETH ที่ถอนออกจากการ Stake ส่วนใหญ่ถูกนำกลับเข้าสู่กระเป๋าเก็บยาว (HODL) มากกว่าจะถูกขาย
อย่างไรก็ตาม ทางเทคนิคแล้ว 4,800 ดอลลาร์ ก็ถือว่าเป็นแนวต้านที่สำคัญนะคะ ใครที่เป็น Ethereum Maxi ก็ลุ้นไปด้วยกันเลย!!
สิ้นสุดทางเลือก!! เมื่อ Do Kwan ผู้ก่อตั้งเหรียญ Luna ได้ออกมายอมรับผิดแล้ว โดยสารภาพผิดในคดีอาญา นั่นคือการฉ้อโกง และสมรู้ร่วมคิดเพื่อฉ้อโกง จากเดิมที่เคยปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
และจากกรณีนี้ ทำให้ Do Kwan ต้องรับโทษถูกจำคุก 12 ปี ซึ่งต่ำกว่าโทษจำคุกสูงสุด 25 ปี โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องไม่ทำผิดอีกก่อนวันตัดสินคดี นอกจากนี้ เขายังต้องจ่ายค่าปรับอีกกว่า 19 ล้านดอลลาร์ในวันที่ 11 ธันวาคมนี้ด้วย
ในระหว่างการพิจารณาคดี ผู้พิพากษา Paul Engelmayer ได้ย้ำกับ Do Kwon วัย 33 ปีว่าการตัดสินโทษขั้นสุดท้ายจะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลแต่เพียงผู้เดียว โดยเขาได้ยอมรับต่อหน้าศาลว่า “ระหว่างปี 2018 ถึง 2022 ผมได้ตกลงเข้าร่วมแผนการฉ้อโกงผู้ซื้อคริปโตเคอร์เรนซีจากบริษัทของผมเอง”
พร้อมทั้งยอมรับว่าข้อมูลที่เคยให้เกี่ยวกับความมั่นคงของเหรียญ TerraUSD ชื่อย่อ UST ไม่เป็นความจริง
สรุปเลยคือ เหรียญ Stablecoin ที่ Do Kwan สร้าง ที่ชื่อ UST มันหยุด pegged ทำให้เกิดความเสียหาย และพังทลายลงในช่วง พ.ค. ปี 2022 ซึ่งตอนนั้นก็มีนักลงทุนที่เสียหายเป็นจำนวนมาก
ถือกันการปิดฉากข้อโต้เถียงอย่างยาวนานระหว่าง Ripple หรือ XRP กับ SEC สหรัฐ เมื่อทั้ง 2 ฝ่ายได้ยื่นคำร้องร่วมว่าจะยุติการอุทธรณ์ต่าง ๆ จบแบบจับมือกันสวย ๆ!!
กรณีนี้เกิดจาก SEC สหรัฐ บอกว่า Ripple ขายโทเค็น XRP ที่มีลักษณะของหลักทรัพย์ หรือมีความเป็น securities ซึ่งทาง ripple ก็ปฏิเสธมาตลอด แถม Brad Garlinghouse, CEO ก็สู้คดีสุดใจ ไม่ยอมรับข้อกล่าวหาง่าย ๆ และด้วยความที่ไม่มีใครยอมใคร ทำให้คดีนี้เป็นข้อถกเกียงเกี่ยวกับเกณฑ์ที่ใช้กำกับสินทรัพย์ดิจิทัล
และแน่นอนว่าคำตัดสินก็จะกลายเป็นบรรทัดฐานของคดีอื่น ๆ ด้วย ซึ่งในยุคสมัยของ Gary Gensler อดีตประธาน SEC สหรัฐ ยังไม่ค่อยมีความชัดเจนเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลเท่าไหร่ บ้างก็ว่าเป็น securities? บ้างก็ว่าไม่ใช่?
และภายหลังการยุติคดี Hester Peirce, กรรมาธิการ SEC ซึ่งมีจุดยืนสนับสนุนคริปโทฯ มากกว่าเพื่อนร่วมองค์กร ได้แสดงความเห็นว่าการปิดคดีนี้เป็น “พัฒนาการที่น่ายินดี” พร้อมระบุว่าการที่เรื่องคดีสิ้นสุด จะช่วยให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องหันมามุ่งเน้นการสร้างกรอบกำกับดูแลที่ชัดเจนสำหรับคริปโทฯ มากขึ้น
ด้าน Paul Atkins ประธาน SEC สหรัฐ ก็เห็นพ้องโดยกล่าวว่าการปิดฉากคดีนี้เป็น “โอกาสในการเปลี่ยนพลังงานจากห้องพิจารณาคดีไปสู่โต๊ะร่างนโยบาย” และเน้นว่าความท้าทายต่อไปคือการสร้างกรอบกฎหมายที่เอื้อต่อการนวัตกรรม ควบคู่กับการคุ้มครองนักลงทุน
นักวิเคราะห์มองว่าการสิ้นสุดของคดีนี้อาจช่วยเร่งให้เกิดความชัดเจนด้านกฎระเบียบในสหรัฐฯ และลดความไม่แน่นอนทางกฎหมายที่ส่งผลต่อผู้ประกอบการและนักลงทุนมานาน โดยเฉพาะในประเด็นสถานะทางกฎหมายของโทเค็นดิจิทัล และอาจเป็นสัญญาณให้ภาคส่วนอื่นเตรียมตัวรับการกำกับดูแลที่เป็นระบบมากขึ้นในอนาคต
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ส.ค. 68)
