CHAYO พุ่ง 28% แรงเกือบชนซีลลิ่ง เปิดกำไร Q2/68 ดีตามยอดเก็บหนี้-ราคาสะท้อนปัจจัยลบไปมากแล้ว

CHAYO พุ่ง 27.89% เพิ่มขึ้น 0.41 บาท มาที่ 1.88 บาท มูลค่าการซื้อขาย 95.58 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.39 น. จากราคาเปิด 1.51 บาท ราคาสูงสุด 1.89 บาท และราคาต่ำสุด 1.51 บาท

บล.กรุงศรี มอง Slightly Positive ต่อ บมจ.ชโย กรุ๊ป [CHAYO] หลังกำไรสุทธิไตรมาส 2/68 ที่ 95 ล้านบาท (+23% YoY, +18% QoQ) เพิ่มขึ้น YoY, QoQ จากการเก็บหนี้ (Cash Collection) ที่เพิ่มขึ้น (+30% YoY, +5% QoQ) ประกอบกับ Gross margin ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น YoY, QoQ จากการลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี ส่งผลให้ สุทธิแล้วกำไร 6 เดือนแรก เป็น 59% ของประมาณการปี 68

ด้านแนวโน้มไตรมาส 3/68 คาดกำไรลดลง YoY, QoQ โดยเรายังมีมุมมองระมัดระวังจากสภาวะเศรษฐกิจซึ่งอาจกระทบ Cash collection และ ECL กลับมาเร่งตัวอีกครั้ง โดยในระยะถัดไปมองบริษัทจะเน้นการแก้ปัญหาสภาพคล่องเป็นหลัก และแนวโน้มชะลอการซื้อหนี้ เราปรับลดประมาณการปี 69-70 ลงเฉลี่ย 22% ตามการซื้อหนี้ที่ลดลง คงคำแนะนำ Neutral แต่ปรับลด PBV 0.4x เทียบเท่าราคาเป้าหมายใหม่ (TP25F) ที่ 1.50 บาท เพื่อสะท้อนการลดแผนซื้อหนี้สำหรับแก้ไขความเสี่ยงจากสภาพคล่อง

ด้าน บล.ทรีนีตี้ ระบุว่า CHAYO ประกาศกำไรไตรมาส 2/68 ที่ 95 ล้านบาท ดีขึ้น 18% QoQ และ 23% YoY หลังยอดจัดเก็บรวมในไตรมาสนี้ปรับตัวดีขึ้นราว 8% QoQ และ 17% YoY โดยหลักเป็นการเพิ่มขึ้นของยอดจัดเก็บจาก NPL ในส่วนของยอดจัดเก็บ NPL ที่ไม่มีหลักประกันทรงตัว QoQ และปรับตัวดีขึ้นค่อนข้างมาก YoY ขณะที่ยอดจัดเก็บ NPL ที่มีหลักประกันดีขึ้นทั้ง QoQ และ YoY โดยการดีขึ้น QoQ หลักๆ เป็นผลจากฐานที่ค่อนข้างต่ำในไตรมาส 1/68

ด้านต้นทุนการให้บริการปรับตัวลดลงถึง 37% QoQ และ 47% YoY จากการลดลงของค่าใช้จ่ายงานคดี ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน และค่าใช้จ่ายสำรองหนี้ (ECL) ค่อนข้างทรงตัว

สำหรับประเด็นที่ทางบริษัทขอเลื่อนชำระคืนหุ้นกู้ 2 ปีสำหรับหุ้นกู้ 5 รุ่น ครบกำหนดในปี 68 ถึง 70 มูลค่ารวม 3.9 พันล้านบาท (หุ้นกู้ที่จะครบกำหนด 20 พ.ย.68 มูลค่า 1.6 พันล้านบาท) บริษัทอยู่ระหว่างขอมติผู้ถือหุ้นกู้ ล่าสุดได้มีการประชุมไปแล้ว และยังได้คะแนนเสียงไม่พอ ทำให้อาจต้องมีการเสนอเงื่อนไขให้กับผู้ถือหุ้นกู้เพิ่มเติม อาทิ การเพิ่มดอกเบี้ยจ่าย และการจ่ายคืนเงินต้นบางส่วนระหว่างทาง

โดยเราประเมินว่าการประชุมรอบถัดไปในช่วงไตรมาส 4/68 น่าจะได้คะแนนเสียงเพียงพอที่จะขยายเวลาการชำระหนี้ไปได้ แต่อาจกระทบการเติบโตของบริษัท เนื่องจากในช่วงที่บริษัททยอยชำระคืนหุ้นกู้ จะมีงบประมาณการในการซื้อหนี้ค่อนข้างจำกัด เราจึงยังคงประมาณการกำไรปี 68 ไว้ที่ 317 ล้านบาท (+32%YoY) กำไรงวด H1/68 คิดเป็น 55% ของประมาณการทั้งปี แต่ปรับลดประมาณการกำไรปี 69 ลง 19% จากประมาณการก่อนหน้าเหลือ 293 ล้านบาท (-8%YoY) ทั้งนี้ หากบริษัทสามารถขายทรัพย์หลักประกันของ NPL หรือ NPA แปลงใหญ่ได้ระหว่างทางอาจช่วยหนุนกำไรให้สูงกว่าประมาณการของเราได้

จากการปรับลดประมาณการ ทำให้เราประเมินราคาเป้าหมายปี 69 ใหม่ที่ 2.14 บาท อิงPBV 0.50 เท่า โดยราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายกันที่ PBV 0.35 เท่า ถือว่าสะท้อนปัจจัยลบและความกังวลไปมากแล้ว แต่ยังมีความไม่แน่นอนสูง จึงแนะนำเพียง “ถือ”

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ส.ค. 68)