
นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดียเรียกร้องให้อินเดียเพิ่มการพึ่งพาตนเองมากขึ้นด้วยการผลิตทุกอย่าง ตั้งแต่ปุ๋ยไปจนถึงเครื่องยนต์เจ็ตและแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า พร้อมให้คำมั่นว่าจะปกป้องเกษตรกรท่ามกลางความขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐฯ
ทั้งนี้ โมดีกล่าวสุนทรพจน์เนื่องในวันประกาศอิสรภาพหรือวันชาติของอินเดียในวันนี้ (15 ส.ค.) ขณะที่อินเดียเผชิญปัญหาภาษีศุลกากรสูงที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ เรียกเก็บจากสินค้าของอินเดีย และความล้มเหลวในการเจรจาการค้าซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากความแตกต่างเรื่องการนำเข้าสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์นมจากสหรัฐฯ
โมดีกล่าวว่า เกษตรกร ชาวประมง และผู้เลี้ยงสัตว์ เป็นกลุ่มที่มีความสำคัญสูงสุดของประเทศ และยืนยันว่าเขาจะเป็นเหมือนกำแพงปกป้องนโยบายใด ๆ ที่คุกคามผลประโยชน์ของพวกเขา โดยอินเดียจะไม่ประนีประนอมเมื่อเกี่ยวข้องกับการปกป้องผลประโยชน์ของเกษตรกร
อย่างไรก็ตาม ในการแถลงสุนทรพจน์ซึ่งยาวเกือบสองชั่วโมง โมดีไม่ได้กล่าวถึงภาษีหรือสหรัฐฯ โดยตรง
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีทรัมป์สั่งเก็บภาษีเพิ่มเติม 25% กับสินค้าของอินเดีย โดยอ้างว่าอินเดียยังคงนำเข้าน้ำมันรัสเซียอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการเพิ่มความตึงเครียดระหว่างสองประเทศ ซึ่งภาษีใหม่นี้จะทำให้สินค้าส่งออกบางรายการจากอินเดียถูกเก็บภาษีสูงถึง 50% ซึ่งถือเป็นอัตราสูงสุดที่สหรัฐฯ เรียกเก็บกับคู่ค้า
ภาษีเหล่านี้กระทบการเข้าถึงตลาดสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดส่งออกใหญ่ที่สุดของอินเดีย โดยจะกระทบต่ออุตสาหกรรมเสื้อผ้า รองเท้า อัญมณีและเครื่องประดับ
สำหรับมูลค่าการส่งออกไปยังสหรัฐฯ มีมูลค่าเกือบ 8.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2567
การเจรจาด้านการค้าระหว่างอินเดียและสหรัฐฯ ล้มเหลวหลังจากการเจรจา 5 รอบ เนื่องจากไม่สามารถตกลงเรื่องการเปิดตลาดสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์นมของอินเดีย รวมถึงการยุติการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย
เมื่อวานนี้ (14 ส.ค.) กระทรวงการต่างประเทศอินเดียระบุว่า อินเดียหวังว่าความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ จะก้าวไปข้างหน้าบนพื้นฐานของความเคารพซึ่งกันและกันและผลประโยชน์ร่วมกัน เพื่อลดความกังวลว่าความสัมพันธ์จะตกต่ำลง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ส.ค. 68)