
ธนาคารกลางมาเลเซีย (BNM) และสำนักงานสถิติแห่งชาติมาเลเซีย เปิดเผยในวันนี้ (15 ส.ค.) ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัว 4.4% ในไตรมาส 2/2568 เมื่อเทียบรายปี ซึ่งขยายตัวในอัตราเดียวกับไตรมาส 1 และใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 4.5%
เมื่อเทียบรายไตรมาส GDP ขยายตัว 2.1% ในไตรมาส 2 ซึ่งแข็งแกร่งกว่าในไตรมาส 1 ที่ขยายตัวเพียง 0.7%
ธนาคารกลางมาเลเซียระบุว่า เศรษฐกิจในไตรมาส 2 ได้รับแรงหนุนจากความแข็งแกร่งของการใช้จ่ายภาคครัวเรือนและภาวะตลาดแรงงานที่ปรับตัวดีขึ้น แต่คาดว่าแนวโน้มเศรษฐกิจในวันข้างหน้าจะได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนที่มีสาเหตุมาจากมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ
รัฐบาลสหรัฐฯ เริ่มบังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากมาเลเซียในอัตรา 19% แล้วในเดือนนี้ และสิ่งที่มาเลเซียกังวลมากเป็นพิเศษคือการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าเซมิคอนดักเตอร์ในอัตราสูงถึง 100% จากบริษัทที่ไม่มีฐานการผลิตในสหรัฐฯ หรือไม่มีแผนที่จะจัดตั้งโรงงานผลิตในสหรัฐฯ
ทั้งนี้ มาเลเซียซึ่งเป็นผู้เล่นรายสำคัญในห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์โลก เตือนว่า การที่สหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีนำเข้าชิปจะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจมาเลเซีย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ส.ค. 68)