สถานการณ์ตลาดหุ้นไทยในช่วงต้นปี 2568 ผันผวนอย่างหนัก โดยดัชนี SET Index เปิดมาที่ 1,397 จุด และทยอยปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง จนทำจุดต่ำสุดครั้งแรกในวันที่ 8 เมษายน ที่ระดับ 1,056 จุด หลังจากนั้นแม้จะดีดตัวขึ้นมาได้ระยะสั้น ๆ แต่ก็ร่วงลงไปทำจุดต่ำสุดใหม่อีกครั้งที่ 1,053 จุด เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นเป็นต้นมาดัชนี SET กลับพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วถึงกว่า 200 จุดภายในเวลาเพียง 2 เดือน จนไปทำจุดสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ที่ 1,283 จุด โดยการฟื้นตัวครั้งนี้มี เงินทุนจากต่างชาติ (Fund Flow) ไหลกลับเข้ามาอย่างชัดเจน
นายทิวา ชินธาดาพงศ์ นายกสมาคมนักลงทุนประเทศไทย หรือ “เซียนมี่” วิเคราะห์ว่า การที่ดัชนีปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นผลมาจากการที่ตลาด “ลงไปลึกเกินไป” โดยดัชนีเคยลดลงถึงกว่า 22-23% เป็นการปรับฐานที่รุนแรงที่สุดในโลก และไม่สอดคล้องกับภาพรวมเศรษฐกิจที่ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ไม่ได้ติดลบ ทำให้การฟื้นตัวครั้งนี้เป็นการ “กลับสู่ค่าเฉลี่ย” ที่เหมาะสม
“ผมคิดว่า SET กลับมาสู่มีนหรือค่ากลาง ผมก็มองว่ามัน Adjusted ตัวมันเอง ไม่ได้ขึ้นไปจนเกินมูลค่าไปแล้ว”นายทิวา กล่าว
มุมมองเศรษฐกิจไทย: แม้ว่าตลาดจะฟื้นตัว แต่ปัญหาเชิงโครงสร้างของเศรษฐกิจไทยยังคงอยู่ เช่น สังคมสูงวัย ขณะที่คนหนุ่มสาวติดกับดักหนี้ครัวเรือนที่สูงถึง 80-90% รวมถึงภาคการท่องเที่ยวที่อาจจะเติบโตได้น้อยลงในปีนี้ อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาจากราคาหุ้นในปัจจุบัน นายทิวาเชื่อว่าได้เข้าสู่ “จุดที่เหมาะสม” แล้ว และคาดว่าจากนี้ตลาดอาจจะมีความผันผวนบวกลบประมาณ 100 จุด หากไม่มีปัจจัยใหม่ ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อ GDP อย่างรุนแรง
“ถ้าถามว่าตลาดจะลงไปอีกไหม ผมคิดว่าช่วงก่อนที่ลงไปลึก ๆ มันเป็นภาวะการตกใจ ขาย LTF ฝรั่งขาย อะไรรวม ๆ ที่ลบ 20 กว่า% ก็ยากล่ะ ผมว่าจากตรงนี้ไปเริ่มเป็น Valuation ที่เหมาะสมแล้ว จากนี้ไปอาจจะมีบวกลบ 100 จุด ค่อย ๆ ยืนไปเรื่อย ๆ ถ้าไม่มีเหตุการณ์ใหม่ เช่นอะไรที่ทำให้ GDP ดีมาก ๆ หรือ GDP ติดลบ”
เซียนมี่ ให้เป้าดัชนี SET ปีนี้ที่ 1,300 จุด แม้ว่าเศรษฐกิจครึ่งปีหลังก็คงไม่ดีเท่าครึ่งปีแรก แต่มองว่าตลาดหุ้นไทยมีปัจจัยบวกสำคัญ
ปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้น
ทิศทางดอกเบี้ย: ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนใหม่ส่งสัญญาณปรับลดดอกเบี้ย ซึ่งจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องในระบบและเป็นผลดีต่อตลาดทุน
นโยบายภาษีของสหรัฐฯ: นโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ทำให้โลกแบ่งเป็น 2 ขั้ว กลับกลายเป็นโอกาสของไทย เพราะทั้งสองขั้วต้องการให้ไทยเป็นฐานการผลิตชิ้นส่วน ทำให้ประเทศได้ประโยชน์
งบประมาณปี 2569: งบประมาณใหม่ผ่านแล้ว และความไม่แน่นอนทางการเมืองที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตน่าจะถูก Price in หรือรับรู้ในราคาหุ้นไปแล้ว
นายทิวา แนะนำการลงทุนใน 2 กลุ่มหลัก คือ หุ้นปันผลดี และ บริษัทที่มีรายได้จากตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเทคโนโลยีอย่าง เซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่น่าลงทุนในช่วงนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ส.ค. 68)
