หุ้นป๊อปมาร์ท (Pop Mart) บริษัทอาร์ตทอยยักษ์ใหญ่สัญชาติจีน ปรับตัวลดลงในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นฮ่องกงช่วงเช้าวันนี้ (20 ส.ค.) แม้ว่าบริษัทเพิ่งประกาศผลกำไรสุทธิเติบโตเกือบ 400% โดยได้แรงหนุนจากกระแสนิยมตุ๊กตาลาบูบู้ (Labubu) ที่พุ่งสูงขึ้นทั่วโลก
ผู้ผลิตของเล่นสะสมจากกรุงปักกิ่งเปิดเผยวานนี้ว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 บริษัทมีรายได้พุ่งขึ้น 204.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 1.388 หมื่นล้านหยวน (ประมาณ 6.3 หมื่นล้านบาท) และกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นพุ่งขึ้นถึง 396.5% มาอยู่ที่ 4.57 พันล้านหยวน ซึ่งสูงกว่าที่บริษัทคาดการณ์ไว้เมื่อเดือนที่แล้วว่า รายได้ช่วงหกเดือนแรกจะโตอย่างน้อย 200% และกำไรจะพุ่งขึ้น 350%
ตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมจีน) กลายเป็นตลาดต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดของป๊อปมาร์ท โดยมีรายได้เพิ่มขึ้น 257.8% มาอยู่ที่ 2.85 พันล้านหยวน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่ตลาดในทวีปอเมริกาเป็นตลาดใหญ่อันดับสอง โดยมีรายได้พุ่งทะยานกว่า 1,000% มาอยู่ที่ 2.26 พันล้านหยวน
อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นของป๊อปมาร์ทกลับร่วงลงไปถึง 4.7% ก่อนจะฟื้นตัวขึ้นเหลือลบ 0.85% ณ เวลา 10.15 น. ตามเวลาท้องถิ่น
เจฟฟ์ จาง นักวิเคราะห์หุ้นจากมอร์นิ่งสตาร์ กล่าวว่า “เรามองว่าความนิยมของ IP (ทรัพย์สินทางปัญญา) หลัก ๆ ของป๊อปมาร์ทอาจไม่ยั่งยืน” พร้อมเสริมว่า แม้ยอดขายลาบูบู้และ IP อื่น ๆ จะยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แต่ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าผู้บริโภคจะยังคงชื่นชอบสิ่งเหล่านี้ต่อไปในอีก 5-10 ปีข้างหน้า เนื่องจากรสนิยมของพวกเขาเปลี่ยนแปลงรวดเร็วมาก
ข้อมูลจาก LSEG ระบุว่า ราคาหุ้นของป๊อปมาร์ทปรับตัวขึ้นกว่า 200% ตั้งแต่ต้นปีนี้ แต่จางกล่าวว่า “ในมุมมองของเรา หุ้นของบริษัทอาจยังมีราคาสูงเกินไป เนื่องจากนักลงทุนกำลังมองข้ามความเสี่ยงสูงทางธุรกิจในระยะยาว”
ทั้งนี้ ในแถลงการณ์เปิดเผยผลประกอบการวานนี้ ป๊อปมาร์ทระบุว่า ทรัพย์สินทางปัญญาคือแก่นของธุรกิจ และจะยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจไปทั่วโลก
ป๊อปมาร์ทโด่งดังไปทั่วโลกจากตุ๊กตาลาบูบู้ ซึ่งจัดจำหน่ายในรูปแบบกล่องสุ่ม อย่างไรก็ดี ในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา สื่อของรัฐบาลจีนได้ออกมาเรียกร้องให้มีการควบคุมของเล่นกล่องสุ่มและการ์ดสะสมที่ขายให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 8 ปีอย่างเข้มงวดมากขึ้น โดยแนะนำมาตรการต่าง ๆ เช่น การยืนยันอายุเมื่อชำระเงิน และการขอความยินยอมจากผู้ปกครองสำหรับการซื้อของออนไลน์ แม้จะไม่ได้ระบุชื่อป๊อปมาร์ทโดยตรง แต่สื่อของรัฐวิพากษ์วิจารณ์ธุรกิจที่กระตุ้นให้เด็กใช้จ่ายเกินตัวไปกับบรรดากล่องสุ่มเหล่านี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ส.ค. 68)
