สหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้าเหล็ก-อะลูมิเนียมในสินค้ากว่า 400 รายการ หวังปิดช่องเลี่ยงภาษี

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ แถลงในวันอังคาร (19 ส.ค.) ว่า สหรัฐฯ ได้ปรับขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมที่เป็นส่วนประกอบในสินค้ากว่า 400 รายการ ซึ่งรวมถึงกังหันลม เครนเคลื่อนที่ เครื่องใช้ไฟฟ้า รถเกลี่ยดินและเครื่องจักรสำหรับงานหนักประเภทอื่น ๆ ตลอดจนเหล็กและอะลูมิเนียมที่เป็นส่วนประกอบในรถไฟ รถจักรยานยนต์ เครื่องยนต์เรือ เฟอร์นิเจอร์ และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อีกหลายร้อยรายการ

กระทรวงพาณิชย์ระบุว่า ทางกระทรวงได้เพิ่มประเภทสินค้า 407 ประเภทในรายการสินค้าอนุพันธ์ (derivative) ของเหล็กและอะลูมิเนียมที่อยู่ภายใต้การจัดเก็บภาษีนำเข้ารายภาคส่วน (sectoral tariffs) โดยจะมีการเรียกเก็บภาษีในอัตรา 50% สำหรับส่วนประกอบที่เป็นเหล็กและอะลูมิเนียมในสินค้าเหล่านี้ บวกกับอัตราภาษีของแต่ละประเทศสำหรับส่วนประกอบที่ไม่ใช่เหล็กและอะลูมิเนียม

นอกจากนี้ ในรายการภาษีใหม่ดังกล่าว กระทรวงฯ ยังได้เพิ่มชิ้นส่วนนำเข้าสำหรับระบบท่อไอเสียรถยนต์และเหล็กที่จำเป็นสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งรวมถึงชิ้นส่วนสำหรับรถบัส เครื่องปรับอากาศ และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ เช่น ตู้เย็น ตู้แช่แข็ง และเครื่องอบผ้า

ภาษีใหม่นี้มีผลบังคับใช้ทันทีและยังครอบคลุมถึงคอมเพรสเซอร์และปั๊ม ตลอดจนโลหะในเครื่องสำอางนำเข้าและบรรจุภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคลอื่น ๆ เช่น กระป๋องสเปรย์

เจฟฟรีย์ เคสเลอร์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ฝ่ายอุตสาหกรรมและความมั่นคง กล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นการขยายขอบเขตภาษีเหล็กและอะลูมิเนียม และมีเป้าหมายเพื่อปิดช่องทางในการหลีกเลี่ยงภาษี ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมเหล็กและอะลูมิเนียมของสหรัฐฯ

ที่ผ่านมานั้น กลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ต่างชาติเคยเรียกร้องกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ไม่ให้เพิ่มชิ้นส่วนเหล่านี้ในรายการภาษีดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่าสหรัฐฯ ไม่มีกำลังการผลิตในประเทศที่เพียงพอจะรองรับความต้องการในปัจจุบัน

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ส.ค. 68)