KTB เห็นพ้องสภาพัฒน์ คาด GDP ปีนี้โต 2% ท่ามกลางความเสี่ยงมากขึ้น-แรงส่งหลักชะลอ

Krungthai COMPASS ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยปี 2568 จะขยายตัวที่ 2.0% โดยระยะข้างหน้าแรงส่งมีทิศทางชะลอลง หลังการประกาศอัตราภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่แม้จะลดความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้า แต่คาดว่าภาวะการแข่งขันด้านราคาจะรุนแรงขึ้น รวมทั้งภาคการท่องเที่ยว ที่ได้รับผลกระทบจากความไม่เชื่อมั่นด้านความปลอดภัย

Krungthai COMPASS ระบุว่า แม้เศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 ของปีนี้ จะขยายตัวได้ดีที่ 2.8% แต่ระยะข้างหน้าแรงส่งหลักของเศรษฐกิจไทย มีทิศทางชะลอลง หลังการประกาศอัตราภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่แม้จะลดความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้า แต่คาดว่าหลายประเทศจะเร่งระบายสินค้ามายังตลาดที่สาม ซึ่งส่งผลให้เกิดการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงขึ้น

นอกจากนี้ ผลจากการเร่งส่งออกสินค้าในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ทำให้สหรัฐฯ มีสต็อกสินค้าในระดับที่สูง อาจเพียงพอต่อความต้องการในปี 2568 โดยพบว่าการส่งออกไปสหรัฐฯ มีมูลค่าเฉลี่ยต่อเดือนในช่วงมี.ค.-มิ.ย.68 สูงถึง 6 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2567 ที่เฉลี่ยอยู่ที่ 4.8 พันล้านดอลลาร์

“คำสั่งซื้อระยะข้างหน้า ขึ้นอยู่กับความสามารถในการ de-stocking ของสหรัฐฯ ที่จะส่งผลต่อแนวโน้มคำสั้งซื้อในระยะต่อไป ท่ามกลางความเสี่ยงจากผลกระทบของข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ โดยเฉพาะภาษี transshipment ที่ปัจจุบัน ยังไม่มีแนวทางดำเนินการที่ชัดเจน” บทวิเคราะห์ ระบุ

นอกจากนี้ ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อที่อาจกลับมาเร่งขึ้นจากผลของภาษีสหรัฐฯ อีกทั้งยังต้องติดตามความเสี่ยงการขึ้น sectoral tariff ในสินค้ากลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งที่ผ่านมาไทยส่งออกได้ดี โดยคิดเป็นกว่า 6% ของมูลค่าการส่งออกไทยไปยังสหรัฐ

ส่วนการท่องเที่ยว มีความเสี่ยงที่จะชะลอลงมากกว่าที่คาด แม้ว่าในช่วงครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย.68) จำนวนนักท่องเที่ยวในกลุ่มระยะไกล (long haul) ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการใช้จ่ายต่อคนสูง จะสามารถขยายตัวได้กว่า 17.4% และทดแทนนักท่องเที่ยวในกลุ่มระยะใกล้ (short haul) ได้บางส่วน อย่างไรก็ดี นักท่องเที่ยวในกลุ่ม short haul ยังคงมีสัดส่วนสำคัญคิดเป็น 73% ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งต้องเร่งฟื้นฟูความเชื่อมั่น

Krungthai COMPASS มองว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2568 จะขยายตัวได้ที่ 2.0% โดยครึ่งหลังของปีคาดว่าจะขยายตัวชะลอลง อยู่ที่ 1.0%จากครึ่งปีแรกที่ขยายตัวได้ 3.0% ท่ามกลางความเสี่ยงจากผลกระทบของข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ โดยเฉพาะภาษี transshipment ที่ปัจจุบันยังไม่มีแนวทางดำเนินการที่ชัดเจน ซึ่งเป็นความท้าทายต่อความสามารถในการปรับตัวของห่วงโซ่อุปทานไทย

อนึ่ง สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ แถลงล่าสุดว่า คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2568 จะขยายตัวได้ 1.8-2.3% หรือมีค่ากลางที่ 2.0% โดยยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตา คือ 1. ผลกระทบจากการดำเนินมาตรการภาษีศุลกากรนำเข้าของสหรัฐฯ ต่อสินค้าไทย 2. ความผันผวนของเศรษฐกิจและปริมาณการค้าโลก จากผลของภาษีสหรัฐฯ และ 3. การชะลอตัวของภาคการท่องเที่ยว โดย สศช. ปรับลดคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปีนี้ เหลือ 33 ล้านคน จาก 37 ล้านคน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ส.ค. 68)