
ยอดส่งออกแม่เหล็กที่ทำจากแร่หายากจากจีนไปยังสหรัฐฯ ฟื้นตัวต่อเนื่องในเดือนก.ค. โดยเพิ่มขึ้น 76% เมื่อเทียบรายเดือน หลังจีนตกลงปรับมาตรการส่งออกให้เป็นปกติ ตามกรอบข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ
ข้อมูลระบุว่า จีนส่งออกแม่เหล็กถาวร (permanent magnet) ที่ทำจากแร่หายาก ไปยังสหรัฐฯ ในปริมาณ 619 ตันในเดือนก.ค. เพิ่มขึ้นจากเพียง 46 ตันในเดือนพ.ค.
ทั้งนี้ แม่เหล็กหายากเป็นส่วนประกอบสำคัญในสินค้าหลากหลาย ตั้งแต่รถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ไปจนถึงเครื่องบินรบ และถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่จีนใช้กดดันโรงงานสหรัฐฯ และเพิ่มแรงกดดันต่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
หลังการประชุมระหว่างเจ้าหน้าที่การค้าของจีนและสหรัฐฯ ที่นครเจนีวาและกรุงลอนดอนในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา ผู้แทนการค้าจีนรับปากจะปรับการส่งออกให้กลับสู่ภาวะปกติ ขณะที่เจมีสัน เกรียร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ เผยว่าจีนได้ดำเนินการไปบางส่วนแล้ว
มาตรการควบคุมการส่งออกของจีนครอบคลุมโลหะหายาก 7 จาก 17 ชนิด รวมถึงแม่เหล็กที่มีปริมาณโลหะจำกัด ทำให้เกิดปัญหาด้านอุปทานทั่วโลก และบังคับให้ทั้งจีนและผู้ซื้อระหว่างประเทศต้องปรับตัวเข้ากับระบบใหม่
อย่างไรก็ดี วิกฤติแม่เหล็กหายากดังกล่าวกระตุ้นให้รัฐบาลสหรัฐฯ เดินหน้าเสริมสร้างห่วงโซ่อุปทานภายในประเทศ โดยในเดือนก.ค. กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ลงทุน 400 ล้านดอลลาร์ในบริษัทเอ็มพี แมททีเรียลส์ (MP Materials) ซึ่งเป็นเหมืองโลหะหายากแห่งเดียวของสหรัฐฯ ส่งผลให้หุ้นของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 130%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ส.ค. 68)