
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ (บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ) ที่มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้รับทราบรายงานความคืบหน้าการดำเนินแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ไปแล้ว 2 ครั้ง
โดยครั้งแรก เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.68 วงเงิน 115,000 ล้านบาทเศษ และครั้งที่ 2 หรือระยะที่ 2 เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 อีกจำนวน 18,400 ล้านบาทเศษ ซึ่งงบประมาณที่ลงไปทั้งหมดกว่า 1.3 แสนล้านบาท เป็นการเน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปี เพื่อรับมือกับผลกระทบจากภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ ดังนั้นจากกรอบวงเงิน 1.57 แสนล้านบาท ได้อนุมัติไปแล้วประมาณ 1.33 แสนล้านบาท ก็จะเหลืองบประมาณอยู่จำนวนหนึ่ง ซึ่งมีบางหน่วยงานขอคืนงบบางส่วนที่ไม่สามารถดำเนินการได้ทันภายในเดือน ก.ย.นี้ และสามารถผูกพันงบประมาณได้เกิน 50% แล้ว ส่งผลให้มีงบเหลือเพิ่มจาก 2.4 หมื่นล้านบาท เป็น 2.6 หมื่นล้านบาท
โดยที่ประชุมบอรด์กระตุ้นเศรษฐกิจวันนี้ มีมติให้โยกงบส่วนนี้ เป็นงบกลางรายการงบฉุกเฉิน ซึ่งจะอยู่ในความรับผิดชอบของผู้อำนวยการสำนักงบประมาณดูแลว่าจะบริหารจัดการอย่างไรที่จะต้องให้ทันภายในเดือน ก.ย.นี้
“ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะไปใช้ทำอะไร แต่ต้องเป็นเรื่องฉุกเฉิน ก็ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่ทันเดือน ก.ย.แล้ว” นายพิชัย กล่าว
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เนื่องจากมีเวลาเหลืออีกไม่มาก จึงต้องปรับงบที่เหลือมาเป็นงบกลางรายการฉุกเฉิน แต่มีเงื่อนไขต้องใช้ให้ทันภายในเดือน ก.ย.นี้ และต้องเป็นเรื่องฉุกเฉิน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ส.ค. 68)