
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพุธ (20 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวกับผู้บริโภคและกลุ่มเฮลท์แคร์ แต่การปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มอุตสาหกรรมป้องกันประเทศถ่วงตลาด
- ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 559.09 จุด เพิ่มขึ้น 1.28 จุด หรือ +0.23%
- ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,973.03 จุด ลดลง 6.05 จุด หรือ -0.08%,
- ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 24,276.97 จุด ลดลง 146.10 จุด หรือ -0.60% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 9,288.14 จุด เพิ่มขึ้น 98.92 จุด หรือ +1.08%
ดัชนี STOXX 600 ปิดบวกแตะระดับปิดสูงสุดในรอบกว่า 5 เดือน โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มที่ปรับตัวขึ้น 2.3% นำโดยหุ้น Nestle ที่พุ่งขึ้น 3.6% ตามมาด้วยกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคและของใช้ในครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น 1.4%
นอกจากนี้ ความหวังในการยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครนยังช่วยหนุนตลาด ขณะที่สหรัฐฯ และพันธมิตรเตรียมหารือเรื่องการสนับสนุนทางทหารต่อยูเครนเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลง แต่ตลาดยังระมัดระวังเพราะรายละเอียดไม่ชัดเจน
หุ้นกลุ่มป้องกันประเทศลดลง 1.4% หลังจากร่วงแรงที่สุดในรอบกว่า 1 เดือนเมื่อวันอังคารจากความคาดหวังเกี่ยวกับข้อตกลงสันติภาพ
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ลดลง 0.5% ตามแรงขายหุ้นเทคโนโลยีในสหรัฐฯ จากความกังวลเรื่องฟองสบู่หุ้นเอไอและความไม่แน่นอนของแนวโน้มดอกเบี้ย
สำหรับหุ้นรายตัวนั้น หุ้น Rockwool ของเดนมาร์ก ร่วง 16.2% มากที่สุดในดัชนี STOXX 600 หลังบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการทั้งปี และถือเป็นการร่วงแรงที่สุดในรอบกว่า 2 ปีครึ่ง
หุ้น Alcon ดิ่งลง 9.4% หนักที่สุดในรอบกว่า 5 ปี หลังปรับลดคาดการณ์ยอดขายสุทธิปีนี้จากผลกระทบของภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ขณะที่หุ้น Convatec ผู้ผลิตอุปกรณ์การแพทย์สัญชาติอังกฤษพุ่งขึ้น 5.6% หลังประกาศโครงการซื้อหุ้นคืนมูลค่า 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นับตั้งแต่ต้นปีนี้ ดัชนี STOXX 600 ปรับตัวขึ้นแล้วราว 10.2% จากความหวังต่อการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในยุโรป การโยกย้ายเงินลงทุนเข้าสู่สินทรัพย์ยุโรปในช่วงครึ่งแรกของปี และการคาดการณ์มากขึ้นว่าจะมีการปรับลดดอกเบี้ยในสหรัฐฯ
ตลาดจับตาการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่แจ็กสันโฮลในสัปดาห์นี้ โดยเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด และผู้ว่าการธนาคารกลางรายใหญ่จะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมดังกล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ส.ค. 68)