หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์รอลุ้นคดีทางการเมือง 2 พ่อ-ลูก “ชินวัตร”

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน (บลป.) เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งไซด์เวย์หลังจากวานนี้ปรับตัวขึ้นมาได้ดี โดยยังรอติดตามปัจจัยการเมืองในประเทศ การไต่สวนคดีคลิปเสียงของนายกรัฐมนตรีก่อนจะวินิจฉัยในวันที่ 29 ส.ค. และพรุ่งนี้จะมีการพิจารณาตัดสินคดี ม.112 ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนรี เป็นปัจจัยในประเทศที่ตลาดรอติดตาม

ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศยังคงมีความกังวลเงินเฟ้อสหรัฐจะสูงขึ้นจากนโยบายภาษีของประธานาธิบดีสหรัฐ ทำให้ตลาดเกรงว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจลดดอกเบี้ยน้อยกว่าที่คาด แต่ก็ยังต้องจับตาถ้อยแถลงของประธานเฟดในการประชุมรอบ Jackson Hole คืนวันศุกร์นี้

ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เปิดมาเช้านี้เคลื่อนไหวบวกและลบสลับกัน

โดยให้แนวต้าน 1,260 จุด แนวรับ 1,230 จุด

 

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

 

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (20 ส.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,938.31 จุด เพิ่มขึ้น 16.04 จุด หรือ +0.04%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,395.78 จุด ลดลง 15.59 จุด หรือ -0.24% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 21,172.86 จุด ลดลง 142.10 จุด หรือ -0.67%

– ตลาดหุ้นเอเชียภาคเช้าเปิดบวก ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 42,783.26 จุด ลดลง 105.29 จุด หรือ -0.25% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 25,216.42 จุด เพิ่มขึ้น 50.48 จุด หรือ +0.2%, ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดที่ระดับ 3,770.68 จุด เพิ่มขึ้น 4.47 จุด หรือ +0.12%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (20 ส.ค.) 1,248.13 จุด เพิ่มขึ้น 12.37 จุด (+1.00%) มูลค่าซื้อขาย 43,127.12 ล้านบาท

– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (20 ส.ค.) 563.88 ล้านบาท

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. (20 ส.ค.) เพิ่มขึ้น 86 เซนต์ หรือ 1.38% ปิดที่ 63.21 ดอลลาร์/บาร์เรล

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (20 ส.ค.) อยู่ที่ 4.15 เหรียญ/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 32.57 อ่อนค่าเล็กน้อย จับตา “นายกฯ อิ๊งค์” ขึ้นศาลไต่สวนคดีคลิปเสียง

– ลุ้นศาลรัฐธรรมนูญ นัดไต่สวนคดีคลิปเสียง “แพทองธาร” สนทนา “ฮุนเซน” ยังเก็บตัวเงียบไม่มีภารกิจตลอดสัปดาห์ เผย 21 สิงหาคมตรงวันเกิด จะไปแจงศาลรธน.เอง พร้อมทีมทนาย

– รมว.คลัง เผยที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจเห็นชอบการโอนงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจที่เหลืออยู่ 26,000 ล้านบาท ไปเพิ่มในงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น โดยที่ผ่านมารัฐบาลได้อนุมัติเงินก้อนนี้ไป 2 ครั้ง มีบางส่วนที่ใช้ไม่หมดก็เอามาคืน เมื่อรวมกับวงเงินที่ยังไม่จัดสรรทำให้มีวงเงิน 26,000 ล้านบาท จึงเป็นหน้าที่ของสำนักงบประมาณที่จะไปจัดการ ซึ่งเงินทั้งหมดนี้ต้องใช้ภายในเดือน ก.ย.นี้

– นักวิชาการประเมินสหรัฐเก็บภาษีจีน 30% ไทยเจอสินค้าจีนทะลัก 6.9-8.8 หมื่นล้านบาท คาด 3 ปีข้างหน้าขาดดุล ประวัติการณ์สินค้าเข้าไทยสูงสุดรอบ 10 ปี ชี้จีนทะลักไทย-เวียดนาม-มาเลเซีย “รัฐบาล” เลื่อนหารือ Local Content สศช.ชี้ไทยเสียส่วนแบ่งอิเล็กฯ คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์รถยนต์ มองสหรัฐเลื่อนเก็บภาษีจีนเพิ่มความเสี่ยง เศรษฐกิจโลก ห่วงโซ่การผลิตชะงัก

-สมาคมโรงแรมไทยยื่นศาลปกครองพิจารณาถอนมติค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาท ทั่วประเทศ ย้ำธุรกิจโรงแรมทุกภูมิภาคกระทบหนัก ด้านสถานการณ์ “ต่างชาติเที่ยวไทย” รับปัจจัยท้าทาย 2 ปีข้างหน้า ทัวริสต์วิตกภาพลักษณ์ “ความปลอดภัย” หลังฉุดยอด ตั้งแต่ ก.พ. ร่วง 20% ด้านซีอีโอเครือออนิกซ์ ประเมินปีนี้ 30 ล้านคน ส่วนปี 69 คาดทรงตัว

 

หุ้นเด่นวันนี้

 

– PTTGC (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 25.40 บาท คงมุมมองเชิงบวกต่อเนื่องจากระดับ valuation น่าสนใจเมื่อเทียบกับกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกันในภูมิภาค เรามองอุตสาหกรรมมีแนวโน้มดีขึ้นจากทั้ง demand และ supply เช่น IMF ปรับคาดการณ์ GDP growth ขึ้นในหลายประเทศนำโดยจีน และผลประชุม Politburo ในจีนครั้งล่าสุดส่งสัญญาณควบคุมอุตสาหกรรมหลักที่ oversupply จาก capacity ล้นพร้อมกับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องเพื่อรองรับความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้น คาด product spread มีโอกาสดีขึ้นในระยะกลางและยาวหากมีการลดลงของ supply ในจีนได้จริง

– COM7 (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 28.50 บาท กำไรสุทธิไตรมาส 2/68 ที่ 1 พันล้านบาท +2%QoQ, +33%YoY กำไรเติบโตสูง YoY จากยอดขายสาขาเดิม SSSG +6% รวมถึงผลงาน NCAP ดีขึ้น ส่วนแนวโน้มไตรมาส 3-4/68 คาดกำไรปรับขึ้นได้ต่อเนื่องจากการเปิดตัว iphone 17 ต้นเดือน ก.ย.และแผนเปิดราคาใหม่ ณ สิ้น ไตรมาส 2/68 มี 1,320 สาขา ตั้งเป้าสิ้นปีเปิดครบ 1,400 สาขา รวมถึงธุรกิจ EV7 สิ้นไตรมาส 2/68 ส่งมอบแล้ว 835 คัน ตั้งเป้าส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้า 3 พันคันในปี 68 และสินเชื่อ UFUND พอร์ตสิ้นปีหวังแตะ 4.5 พันล้านบาท ส่งให้เป้ารายได้ทั้งปีทะลุ 8 หมื่นล้านบาท ตลาดคาดกำไรปี 68 ที่ 3.8 พันล้านบาท +15%YoY ส่วนปี 69 อยู่ที่ 4.1 พันล้านบาท +10%YoY

– SJWD (ฟินันเซีย ไซรัส) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 14 บาท จากกำไรปกติ H1/68 เติบโต 91% YoY ยืนยันว่าปี 68 เป็นปีที่ดี แนวโน้มกำไร H2/68 คาดยังสดใสต่อเนื่องทั้งธุรกิจห้องเย็น คลังสินค้า ส่วนแบ่งกำไรธุรกิจต่างประเทศยังแข็งแกร่ง ทั้งหมดช่วยชดเชยธุรกิจ Automotive ที่ยังซบเซา ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 68 ขึ้น 22% เป็น 1.2 พันลบ +49% YoY และปรับเพิ่มกำไรปี 69-70 ขึ้น 11%/10% เป็นเติบโต +6%/+11% ตามลำดับ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ส.ค. 68)