
ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 29-30 ก.ค. โดยระบุว่า กรรมการเฟดได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับภาวะตลาดแรงงานและเงินเฟ้อ แม้กรรมการส่วนใหญ่จะมีความเห็นตรงกันว่ายังเร็วเกินไปที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยก็ตาม
รายงานการประชุมซึ่งมีการเผยแพร่ในวันพุธ (20 ส.ค.) ระบุว่า กรรมการเฟดเกือบทุกคนมีความเห็นว่า เป็นการเหมาะสมที่จะคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ระดับ 4.25% – 4.50% ในการประชุมครั้งนี้ ยกเว้นมิเชล โบว์แมน รองประธานฝ่ายกำกับดูแลของเฟด และคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในสมาชิกคณะผู้ว่าการเฟดที่โหวตคัดค้านการตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ โบว์แมนและวอลเลอร์ต่างก็สนับสนุนให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมครั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้ตลาดแรงงานอ่อนแอลงอีก ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 30 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2536 ที่มีผู้ว่าการเฟดมากกว่าหนึ่งคนโหวตคัดค้านการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ย
หลังการประชุมเฟดจบลงไม่ถึง 48 ชั่วโมง กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ได้เปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค.ที่ต่ำกว่าคาด และยังได้ปรับลดการประเมินตัวเลขจ้างงานเดือนพ.ค.และมิ.ย.ลงอย่างมาก ซึ่งถือเป็นการยืนยันถึงความวิตกกังวลของโบว์แมนและวอลเลอร์เกี่ยวกับภาวะตลาดแรงงานของสหรัฐฯ
นอกจากนี้ รายงานการประชุมยังระบุว่า โดยรวมแล้ว กรรมการเฟดได้ชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยงทั้งสองด้านที่จะมีต่อเป้าหมาย Dual Mandate ของเฟด โดยเน้นย้ำถึงความเสี่ยงด้านที่เงินเฟ้อจะปรับตัวสูงขึ้น และความเสี่ยงที่การจ้างงานจะอยู่ในภาวะขาลง โดยแม้กรรมการเฟดส่วนใหญ่มองว่าความเสี่ยงที่เงินเฟ้อจะปรับตัวสูงขึ้นนั้น เป็นความเสี่ยงที่ควรให้ความสำคัญมากกว่า แต่ก็มีกรรมการเฟดบางคนแย้งว่า ความเสี่ยงขาลงของการจ้างงานเป็นความเสี่ยงที่สำคัญกว่า
ทั้งนี้ เป้าหมาย Dual Mandate ของเฟดคือการจ้างงานที่ขยายตัวอย่างเต็มศักยภาพและอัตราเงินเฟ้อที่เคลื่อนตัวสู่เป้าหมายที่ระดับ 2%
รายงานการประชุมดังกล่าวมีการเผยแพร่เพียงสองวันก่อนที่เจอโรม พาวเวล ประธานเฟดจะกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันพรุ่งนี้ (22 ส.ค.) โดยคาดว่าพาวเวลจะใช้สุนทรพจน์ครั้งนี้เพื่อส่งสัญญาณทิศทางอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อยก็ในระยะสั้น รวมถึงมุมมองที่อาจบ่งชี้ถึงแนวโน้มนโยบายการเงินในระยะยาว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ส.ค. 68)