
บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น [TRUE] เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทได้ยื่นคำร้องงขอเพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการในคดีที่บริษัท ทีโอที จำกัด หรือปัจจุบัน คือ บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ (NT) ยื่นคำเสนอข้อพิพาทเรียกร้องค่าเสียหายจากการสูญเสียรายได้ตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2543 ถึงเดือนมิถุนายน 2548 อันเนื่องมาจาก TRUE ลดค่าบริการโทรศัพท์ทางไกลภายในประเทศภายใต้โครงการ TA 1234 นั้น
เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2568 ศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาให้เพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ เนื่องจากเป็นกรณีที่ทีโอทียื่นคำเสนอข้อพิพาทต่อคณะอนุญาโตตุลาการเมื่อพ้นเวลาตามที่กฎหมายกำหนด การที่คณะอนุญาโตตุลาการรับคำเสนอข้อพิพาทและมีคำชี้ขาดจึงเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
นอกจากนี้ ศาลปกครองกลางยังวินิจฉัยว่าการให้บริการ TA 1234 ของบริษัทฯเป็นเพียงการบรรเทาความเสียหายอันเกิดจากการปฏิบัติผิดสัญญาของทีโอทีเท่านั้น ถือไม่ได้ว่าบริษัทปฏิบัติผิดสัญญา ดังนั้น การที่คณะอนุญาโตตุลาการชี้ขาดว่า TRUE เป็นฝ่ายผิดสัญญาและให้บริษัทฯ ชำระเงินนั้น เป็นการวินิจฉัยชี้ขาดที่ไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงและข้อสัญญาร่วมการงานและร่วมลงทุน ซึ่งมีผลให้การยอมรับหรือบังคับตามคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการจะเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนตามมาตรา 40 วรรคสาม (2) (ข) แห่ง พระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ พ.ศ. 2545
ศาลจึงมีคำพิพากษาให้เพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ และบริษัทไม่ต้องชำระเงินให้แก่ทีโอทีตามคำชี้ขาดดังกล่าว ทั้งนี้ คู่กรณี ฝ่ายที่ไม่พอใจกับคำพิพากษาสามารถอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ทราบผลคำพิพากษา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ส.ค. 68)