
สำนักงานสถิติแห่งชาติสิงคโปร์ รายงานในวันนี้ (25 ส.ค.) ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ไม่นับรวมต้นทุนที่อยู่อาศัยและการขนส่งในภาคเอกชน เพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราต่ำสุดในรอบ 4 เดือน และต่ำกว่าในเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 0.6%
ส่วนดัชนี CPI ทั่วไปอยู่ที่ระดับ 0.6% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.8%
รายงานของสำนักงานสถิติระบุว่า ต้นทุนด้านสันทนาการปรับตัวลง 1.2% ในเดือนก.ค. หลังจากที่ร่วงลง 2.6% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อด้านอาหารอยู่ที่ระดับ 1.1% และต้นทุนด้านการดูแลสุขภาพปรับตัวขึ้น 2.4%
รัฐบาลสิงคโปร์ประมาณการว่าดัชนี CPI พื้นฐานโดยเฉลี่ยในปีนี้จะอยู่ในช่วง 0.5% – 1.5% นอกจากนี้ รัฐบาลได้ปรับเพิ่มคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจในปีนี้ขึ้นสู่ระดับ 1.5% – 2.5% จากระดับ 0% – 2% หลังจากเศรษฐกิจในครึ่งปีแรกขยายตัวได้ดีเกินคาดเนื่องจากการส่งออกปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
ส่วนในการประชุมครั้งหลังสุดของธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) เมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการ MAS มีมติคงนโยบายการเงิน ด้วยการคงอัตราการแข็งค่าของกรอบนโยบายที่อิงกับอัตราแลกเปลี่ยนไว้ในระดับเดิม โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงความชัน (slope), ระดับกึ่งกลาง (mid-point) หรือความกว้าง (width) ของกรอบนโยบายดังกล่าว
ทั้งนี้ สิงคโปร์มีแนวทางการดำเนินนโยบายการเงินแตกต่างจากหลายประเทศ โดยไม่ใช้อัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นเครื่องมือหลัก แต่เลือกควบคุมค่าเงินดอลลาร์สิงคโปร์ให้เคลื่อนไหวภายในกรอบที่ไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ เทียบกับตะกร้าสกุลเงินของประเทศคู่ค้า ซึ่งเรียกว่าดัชนีอัตราแลกเปลี่ยนของดอลลาร์สิงคโปร์ หรือ S$NEER ทั้งนี้ MAS ใช้ 3 กลไกในการปรับนโยบาย ได้แก่ ความชัน จุดกึ่งกลาง และความกว้างของกรอบดังกล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ส.ค. 68)