“พิชัย” หารือทูตสหรัฐฯ กระชับสัมพันธ์ทุกมิติ-ติดตามคืบหน้าภาษี-กระบวนการเข้าเป็นสมาชิก OECD

น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยผลหารือระหว่างนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง กับ นายรอเบิร์ต เอฟ.โกเด็ก (The Honorable Robert F. Godec) เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ว่า ทั้งสองได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเป็นพันธมิตรที่สำคัญต่อกัน และการมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่แน่นแฟ้นมาอย่างยาวนาน ซึ่งสร้างประโยชน์ร่วมกันอย่างมหาศาล พร้อมเห็นพ้องที่จะสานต่อความร่วมมือทั้งสองด้านให้ก้าวหน้าในบรรยากาศแห่งมิตรภาพและการเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญต่อกัน

ทั้งสองฝ่ายยังต่างยินดีที่การเดินทางเยือนไทยของคณะสมาชิกรัฐสภาสหรัฐอเมริกา (Congressional Delegation: CODEL) และได้พบหารือกับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา รวมถึงการหารือระหว่าง CODEL กับรองนายกรัฐมนตรีฯ พิชัย เมื่อวานนี้ ได้นำไปสู่ผลลัพธ์เชิงบวกขยายความร่วมมือในด้านสำคัญอื่น ๆ อีกหลายมิติ และตอกย้ำความเป็นหุ้นส่วนและพันธมิตรที่ยาวนานของทั้งสองประเทศ

ในประเด็นการเจรจาภาษี รองนายกรัฐมนตรีฯ กล่าวว่า การเจรจาเรื่องมาตรการภาษีต่างตอบแทนของสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในวาระสำคัญที่รัฐบาลไทยให้ความสำคัญสูงสุด โดยได้มีการหารือกับผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) อย่างต่อเนื่อง ซึ่งนำไปสู่ข้อเสนอเชิงรูปธรรมที่สามารถตอบโจทย์ข้อกังวลด้านการค้าของสหรัฐฯ ได้อย่างน่าพอใจ

สำหรับอัตราภาษีที่ปรับใหม่ในระดับ 19% รองนายกรัฐมนตรีฯ กล่าวว่า ไทยพึงพอใจต่อพัฒนาการเชิงบวกเมื่อเปรียบเทียบกับอัตราเดิม โดยมองว่าจะช่วยให้ธุรกิจไทยยังคงความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก แม้จะยังเพิ่มต้นทุนการส่งออกและสร้างความไม่แน่นอน โดยเฉพาะกรณีอัตราภาษีสำหรับการถ่ายโอนสินค้าผ่านประเทศที่สาม (Transshipment) อย่างไรก็ดีไทยพร้อมทำงานใกล้ชิดกับหน่วยงานศุลกากรและป้องกันชายแดนสหรัฐฯ (CBP) เพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว พร้อมหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ขณะที่เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ยินดีให้ความช่วยเหลือกับไทยพร้อมทำงานอย่างใกล้ชิดกับไทย เพื่อให้สามารถบรรลุผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ร่วมกันของไทย-สหรัฐฯ

เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ยังกล่าวชื่นชมถึงนโยบายของรัฐบาลในการดึงดูดบริษัทผลิตภาพยนตร์และซีรีส์ของสหรัฐฯ ในการใช้ประเทศไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำ ซึ่งนับเป็นนโยบายที่ประสบความสำเร็จโดยภาพยนตร์และซีรีส์ดังหลายเรื่องอย่าง The White Lotus, Jurassic World ได้ก่อให้เกิดการจ้างงานคนไทยจำนวนมาก และดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งความสำเร็จของความร่วมมือในเรื่องนี้ สามารถเป็นตัวอย่างของความร่วมมือไทย-สหรัฐ ที่จะนำไปต่อยอดผลักดันไปสู่ความร่วมมือในสาขาอื่นๆ ได้ในอนาคต

นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายยังหารือถึงกระบวนการเข้าร่วมเป็นสมาชิก OECD การเตรียมความพร้อมสำหรับการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปีของสภาผู้ว่าการธนาคารโลก (World Bank Group) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund: IMF) ประจำปี 2569

ส่วนผลกระทบที่เกิดจากความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลไทยได้เตรียมความพร้อมแล้วในทุกเรื่อง ส่วนการรับมือกับผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจชายแดน รวมถึงได้มีมาตรการเยียวยาประชาชนและธุรกิจรองรับไว้แล้ว ซึ่งเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ หวังว่าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาจะเกิดสันติภาพที่ยั่งยืนโดยเร็ว และสหรัฐฯ ในฐานะที่เป็นพันธมิตรที่สำคัญของไทยยินดีให้ความช่วยเหลือกับไทยอย่างใกล้ชิด

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ส.ค. 68)