ซีเรียส่งออกน้ำมันครั้งแรกในรอบ 14 ปี หลังทรัมป์ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร

ซีเรียได้ทำการส่งออกน้ำมันดิบจำนวน 600,000 บาร์เรลในจันทร์ (1 ก.ย.) ซึ่งเป็นการส่งออกน้ำมันครั้งแรกในรอบ 14 ปี หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ และรัฐบาลของประเทศอื่น ๆ ในฝั่งตะวันตก ได้ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อซีเรีย ซึ่งช่วยบรรเทาเศรษฐกิจของซีเรียที่ได้รับความเสียหายจากสงคราม

สำนักข่าวซานาของทางการซีเรียรายงานว่า เรือนิสซอส คริสเตียนา ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันของบริษัทขนส่งน้ำมันซีเรีย (Syrian Company for Oil Transport) ได้ลำเลียงน้ำมันออกจากท่าเรือทาร์ตุสแล้ว พร้อมระบุว่าขณะนี้ตลาดซีเรียมีน้ำมันเพียงพอ เนื่องจากโรงกลั่นสองแห่งในเมืองบานิยาส และเมืองฮอมส์ สามารถเดินเครื่องได้เต็มกำลังการผลิต

ในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ปธน.ทรัมป์ได้ประกาศยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อซีเรีย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซาและสนับสนุนรัฐบาลชุดใหม่ โดยสองเดือนก่อนหน้านั้น สหภาพยุโรป (EU) ก็ได้ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจที่เหลือทั้งหมดต่อซีเรียเช่นกัน

การที่ซีเรียถูกนานาประเทศคว่ำบาตร และสงครามกลางเมืองที่มีจุดเริ่มต้นมาจากการก่อกบฏเพื่อต่อต้านอดีตประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ในปี 2554 ได้สร้างความเสียหายต่อพื้นที่ส่วนใหญ่ของซีเรีย อย่างไรก็ดี กลุ่มฮายัต ทาห์รีร์ อัล-ชาม (Hayat Tahrir Al-Sham) ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธภายใต้การนำของอาเหม็ด อัล-ชารา ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน สามารถโค่นล้มระบอบเผด็จการของรัฐบาลอัสซาดในเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งได้เปิดทางให้มีการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรและการลงทุนจากต่างชาติ

แต่ถึงกระนั้นก็ตาม โครงสร้างพื้นฐานที่ทรุดโทรมของประเทศยังคงเป็นความท้าทายสำหรับบริษัทน้ำมันของซีเรีย ซึ่งทำให้ปธน.อาเหม็ด อัล-ชารา พยายามสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นกับประเทศในกลุ่มอ่าวอาหรับ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของซีเรีย โดยซาอุดีอาระเบีย กาตาร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักของรัฐบาลซีเรีย

ในปีนี้ รัฐบาลซีเรียได้ลงนามข้อตกลงกับบริษัทซาอุดีอาระเบียเพื่อฟื้นฟูภาคพลังงาน และได้ทำข้อตกลงมูลค่า 800 ล้านดอลลาร์กับบริษัทดีพี เวิลด์ (DP World) ซึ่งเป็นบริษัทโลจิสติกส์ของดูไบ เพื่อพัฒนาท่าเรือทาร์ตุสและระบบโลจิสติกส์ในซีเรีย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ก.ย. 68)