IAEA ตรวจพบอนุภาคยูเรเนียมในซีเรีย คาดเป็นโครงการนิวเคลียร์ลับ

ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) ซึ่งเป็นองค์กรเฝ้าระวังด้านนิวเคลียร์ของสหประชาชาติได้แถลงในรายงานต่อประเทศสมาชิกในวันจันทร์ (1 ก.ย.) ว่า IAEA ได้พบร่องรอยของแร่ยูเรเนียมในประเทศซีเรีย ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบอาคารที่อิสราเอลทำลายไปเมื่อปี 2550 ซึ่งทาง IAEA เชื่อมานานแล้วว่าอาจเป็นอาคารที่ตั้งเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ไม่เคยมีการแจ้งให้ทราบ

รัฐบาลซีเรียในยุคของอดีตประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดเคยกล่าวว่า สถานที่ในเมืองเดียร์ อัล-ซอร์ ซึ่งรวมถึงอาคารดังกล่าว เป็นฐานทัพทางทหารทั่วไปของซีเรีย อย่างไรก็ตาม ในปี 2554 ทาง IAEA ระบุว่าอาคารดังกล่าวมีความเป็นไปได้อย่างมากที่จะเป็นที่ตั้งของเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ถูกสร้างขึ้นอย่างลับ ๆ ซึ่งรัฐบาลซีเรียควรจะแจ้งให้ทราบ

นับตั้งแต่นั้นมา IAEA ได้พยายามหาข้อสรุปที่แน่ชัด และด้วยความพยายามครั้งใหม่เมื่อปี 2567 ทางองค์กรได้พบ “อนุภาคยูเรเนียมธรรมชาติ (natural uranium particles)” จำนวนมากในตัวอย่างที่เก็บได้จากหนึ่งในสามสถานที่ที่ไม่เปิดเผยชื่อ ซึ่งคาดว่าน่าจะมีความเชื่อมโยงพื้นที่ดังกล่าวในเมืองเดียร์ อัล-ซอร์ โดยการวิเคราะห์อนุภาคเหล่านี้พบว่ายูเรเนียมมีที่มาจากมนุษย์ นั่นคือถูกผลิตขึ้นจากกระบวนการทางเคมี”

ทั้งนี้ คำว่า “ยูเรเนียมธรรมชาติ” หมายถึงยูเรเนียมที่ยังไม่ผ่านการเสริมสมรรถนะ

รายงานของ IAEA ยังระบุด้วยว่า “รัฐบาลซีเรียชุดปัจจุบันระบุว่าพวกเขาไม่มีข้อมูลใด ๆ ที่จะสามารถอธิบายถึงการมีอยู่ของอนุภาคยูเรเนียมเหล่านี้” พร้อมเสริมว่า รัฐบาลซีเรียได้อนุญาตให้ IAEA เข้าตรวจสอบสถานที่ดังกล่าวอีกครั้งในเดือนมิ.ย.ปีนี้ เพื่อเก็บตัวอย่างทางสิ่งแวดล้อมเพิ่มเติม

ทั้งนี้ รายงานระบุว่า IAEA ยังคงมีแผนที่จะเข้าตรวจสอบพื้นที่ในเมืองเดียร์ อัล-ซอร์ และจะประเมินผลการเก็บตัวอย่างทางสิ่งแวดล้อมที่เก็บได้จากสถานที่อื่น ๆ ต่อไป

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ก.ย. 68)