แบงก์ชาติอินโดฯ ลั่นพยุงรูเปียห์กลับสู่ระดับ 16,300 ต่อดอลล์ หลังอ่อนค่าจากเหตุประท้วง

เพอร์รี วาร์จีโย ผู้ว่าการธนาคารกลางอินโดนีเซียเปิดเผยในวันนี้ (2 ก.ย.) ว่า ธนาคารกลางกำลังเข้าดูแลค่าเงินรูเปียห์ให้กลับมาแข็งค่า โดยตั้งเป้าหมายให้อยู่ที่ระดับประมาณ 16,300 รูเปียห์ต่อดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่ค่าเงินอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบทั่วประเทศ

วาร์จีโยกล่าวต่อที่ประชุมสภาที่ปรึกษาภูมิภาคของรัฐสภาในวันนี้ว่า “ค่าเงินรูเปียห์ที่เมื่อวานตอนเช้าอ่อนค่าไปถึง 16,560 วันนี้เราได้ดูแลให้มีเสถียรภาพที่ระดับ 16,400 แล้ว”

“เราจะพยายามทำให้ค่าเงินแข็งค่าขึ้นไปอีกที่ระดับ 16,300 หรือแข็งค่ากว่านั้น” วาร์จีโยกล่าว พร้อมยืนยันเจตนารมณ์ของธนาคารกลางที่จะเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราทั้งในและต่างประเทศ

สถานการณ์ค่าเงินรูเปียห์ที่อ่อนตัวลงมีสาเหตุจากเหตุประท้วงที่ลุกลามไปในหลายเมืองทั่วประเทศ ซึ่งถูกจุดชนวนจากกรณีที่รถตำรวจพุ่งชนผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างเสียชีวิตเมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (28 ส.ค.) ส่งผลให้ค่าเงินรูเปียห์ร่วงลงถึง 0.9% ในวันศุกร์ (29 ส.ค.)

การประท้วงยังคงดำเนินมาจนถึงสัปดาห์นี้ โดยมีรายงานว่าเมื่อเย็นวันจันทร์ (1 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ได้ใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุมใกล้กับมหาวิทยาลัยสองแห่งในเมืองบันดุง ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงจาการ์ตาไปทางตะวันตกกว่า 140 กิโลเมตร

ข้อมูลจาก LSEG ระบุว่า ในระหว่างการซื้อขายเมื่อวันจันทร์ เงินรูเปียห์ได้อ่อนค่าลงไปแตะระดับ 16,500 ต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับอ่อนที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. ก่อนจะฟื้นตัวขึ้นในเวลาต่อมา

ด้านตลาดหุ้น ดัชนีหลักปรับตัวสูงขึ้น 1.17% ในวันนี้ หลังจากที่ลดลงไปถึง 2.7% ในช่วงสองวันทำการก่อนหน้า

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ก.ย. 68)