อินเดียเจรจาสหรัฐฯ หวังทำข้อตกลงการค้า หลังถูกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มสองเท่า

ไพยุช โกยัล รัฐมนตรีกระทรวงการค้าของอินเดีย เปิดเผยในวันนี้ (2 ก.ย.) ว่า อินเดียกำลังเจรจากับสหรัฐฯ เรื่องข้อตกลงการค้าทวิภาคี หลังจากที่สหรัฐฯ เพิ่มอัตราภาษีสินค้าจากอินเดียเป็นสองเท่าเมื่อไม่กี่วันก่อน เพื่อเป็นมาตรการลงโทษที่อินเดียยังคงนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียอย่างต่อเนื่อง

“เรากำลังพูดคุยกับสหรัฐฯ เพื่อทำข้อตกลงการค้าทวิภาคี” โกยัลกล่าวในงานแห่งหนึ่ง

ทั้งนี้ อินเดียและสหรัฐฯ เจรจาข้อตกลงดังกล่าวมาตั้งแต่เดือนมี.ค. และได้มีการหารือกันไปแล้ว 5 รอบ แต่หลังจากสหรัฐฯ ประกาศเก็บภาษีสินค้าอินเดียเพิ่มขึ้นเป็น 50% ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค. ทำให้ทีมเจรจาของสหรัฐฯ เลื่อนกำหนดการเดินทางเยือนอินเดีย จากเดิมในวันที่ 25 ส.ค. ออกไปก่อน โดยจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดวันใหม่สำหรับการเจรจารอบที่ 6

ด้านฮาร์ดีป ซิงห์ พูรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงน้ำมันของอินเดีย เปิดเผยว่า อินเดียไม่ได้หากำไรจากการนำเข้าน้ำมันรัสเซีย พร้อมระบุว่า การซื้อน้ำมันดังกล่าวช่วยรักษาเสถียรภาพของตลาดโลก และป้องกันไม่ให้ราคาทะยานขึ้นแตะ 200 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ปัจจุบัน อินเดียกลายเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบรัสเซียทางทะเลรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยอาศัยส่วนลดที่รัสเซียเสนอ หลังจากยุโรปและสหรัฐฯ เลิกซื้อน้ำมันรัสเซียและออกมาตรการคว่ำบาตรเพื่อตอบโต้การบุกยูเครนเมื่อปี 2565

คำกล่าวของรมว.การค้าอินเดียมีขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ โพสต์ข้อความใน Truth Social เมื่อวานนี้ โดยระบุถึงสาเหตุที่สหรัฐฯ ตั้งกำแพงภาษีสูงถึง 50% ต่ออินเดีย เนื่องจากถูกอินเดียเอาเปรียบมาโดยตลอด

“สิ่งที่หลายคนไม่เข้าใจก็คือ เรามีการทำธุรกิจกับอินเดียน้อยมาก แต่พวกเขากลับทำธุรกิจกับเรามูลค่ามหาศาล กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ พวกเขาขายสินค้าจำนวนมากให้เรา เราเป็นเหมือนลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของพวกเขา แต่เราแทบไม่ได้ขายอะไรให้พวกเขาเลย ความสัมพันธ์ทางการค้าเป็นแบบด้านเดียวมาโดยตลอด และเป็นเช่นนี้มาหลายทศวรรษแล้ว เหตุผลก็คือ อินเดียได้เรียกเก็บภาษีศุลกากรกับเราในระดับที่สูงมากที่สุดเมื่อเทียบกับทุกประเทศ ทำให้ธุรกิจของเราไม่สามารถขายสินค้าในอินเดียได้เลย มันเป็นหายนะที่เกิดขึ้นเพียงฝั่งเดียว!”

“นอกจากนี้ อินเดียยังซื้อพลังงานและยุทโธปกรณ์ทางทหารส่วนใหญ่จากรัสเซีย และซื้อน้อยมากจากสหรัฐ ตอนนี้พวกเขาเสนอที่จะลดภาษีศุลกากรลงจนเหลือ 0% แต่ก็สายเกินไปแล้ว พวกเขาควรทำเช่นนี้ตั้งแต่หลายปีก่อน นี่เป็นความจริงง่าย ๆ ที่ทุกคนควรพิจารณา!!!” ปธน.ทรัมป์โพสต์ใน Truth Social

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ก.ย. 68)