ทรัมป์ลั่น เตรียมส่งเนชันแนลการ์ดปราบอาชญากรรมในชิคาโก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ประกาศเมื่อวันอังคาร (2 ก.ย.) เตรียมส่งกองกำลังพิทักษ์ชาติ (National Guard) เข้าปราบปรามอาชญากรรมในเมืองชิคาโก นับเป็นความเคลื่อนไหวที่ไม่เคยมีมาก่อนในการใช้กำลังทหารเข้าควบคุมเมืองใหญ่อันดับสามของประเทศ และคาดว่าจะจุดชนวนการต่อสู้ทางกฎหมายกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นอย่างดุเดือด

“เราจะเข้าไป ผมไม่ได้บอกว่าจะไปเมื่อไหร่ แต่เราจะเข้าไปแน่” ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาว

ด้านแบรนดอน จอห์นสัน นายกเทศมนตรีเมืองชิคาโก ได้ออกมาประณามการกระทำดังกล่าวในทันที

“เขาเพียงต้องการกองกำลังตำรวจลับส่วนตัวไว้คอยสร้างภาพยามที่คะแนนนิยมของเขาตกต่ำ ยามที่ตัวเลขการจ้างงานบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังซบเซา และยามที่เขาต้องการเบี่ยงเบนความสนใจไปจากความล้มเหลวของตนเอง” จอห์นสันกล่าว

ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังจากผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางมีคำสั่งห้ามรัฐบาลทรัมป์ใช้กำลังทหารปราบปรามอาชญากรรมในรัฐแคลิฟอร์เนีย แม้คำตัดสินดังกล่าวจะไม่มีผลบังคับใช้กับรัฐอื่น แต่ผู้พิพากษาชี้ว่า การที่ทรัมป์แสดงเจตจำนงจะส่งทหารไปยังชิคาโกและเมืองอื่น ๆ ถือเป็นเหตุผลสนับสนุนคำตัดสินของตน

เจ.บี. พริตซ์เกอร์ ผู้ว่าการรัฐอิลลินอยส์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองชิคาโก กล่าวหลังการแถลงของทรัมป์ว่า รัฐบาลทรัมป์กำลังเตรียมการส่งกองกำลังพิทักษ์ชาติจากรัฐเท็กซัสมายังอิลลินอยส์ พร้อมระดมเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานของรัฐบาลกลาง อาทิ หน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร (ICE) หน่วยงานศุลกากรและป้องกันชายแดน และกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ

พริตซ์เกอร์ยังกล่าวด้วยว่า ทรัมป์จะส่งเจ้าหน้าที่ติดอาวุธและยานพาหนะทางทหารเข้าประจำการในพื้นที่ของรัฐบาลกลาง เช่น ฐานทัพเรือเกรตเลกส์ โดยมีกำลังพลบางส่วนถูกย้ายมาจากลอสแอนเจลิส

ปธน.ทรัมป์ ซึ่งสังกัดพรรครีพับลิกัน กล่าวว่าเขา “อยากให้” พริตซ์เกอร์ ซึ่งเป็นเดโมแครต โทรมาเพื่อร้องขอกำลังทหาร แต่ “ถึงอย่างไรเราก็จะทำอยู่ดี”

จอห์นสัน ซึ่งเป็นเดโมแครตเช่นกัน กล่าวย้ำเมื่อสุดสัปดาห์ว่า ตำรวจชิคาโกจะไม่ให้ความร่วมมือกับกองกำลังพิทักษ์ชาติหรือเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลาง หากทรัมป์ส่งกำลังเข้ามาในเมืองตามที่ขู่ไว้

ทั้งนี้ ทรัมป์ขู่มาตลอดว่าจะขยายปฏิบัติการปราบปรามของรัฐบาลกลางไปยังเมืองต่าง ๆ ที่บริหารโดยพรรคเดโมแครต โดยอ้างความจำเป็นเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรม แม้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นจะยืนยันว่าสถิติการฆาตกรรม ความรุนแรงจากอาวุธปืน และการลักทรัพย์ล้วนลดลง

อำนาจของทรัมป์ในชิคาโกและบัลติมอร์นั้นมีจำกัดกว่าในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. มาก เนื่องจากเมืองหลวงไม่ได้มีสถานะเป็นรัฐ ทำให้ประธานาธิบดีมีอำนาจควบคุมโดยตรงมากกว่า

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ก.ย. 68)