อินเดียเจรจาซื้อระบบขีปนาวุธ S-400 เพิ่มจากรัสเซีย เมินสหรัฐฯ กดดัน

ดมิทรี ชูกาเยฟ ผู้อำนวยการสำนักงานบริการความร่วมมือทางเทคนิคด้านกลาโหมแห่งสหพันธ์รัสเซีย เปิดเผยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (2 ก.ย.) ว่า รัสเซียและอินเดียกำลังเจรจาเกี่ยวกับการส่งมอบระบบขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ S-400 ของรัสเซียเพิ่มเติมให้กับอินเดีย

สำนักข่าวทาสส์ (TASS) รายงานคำกล่าวของชูกาเยฟว่า อินเดียมีระบบ S-400 ของรัสเซียอยู่แล้ว แต่มีความเป็นไปได้ที่จะขยายความร่วมมือ ซึ่งหมายถึงการส่งมอบชุดใหม่ ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการเจรจา

เมื่อปี 2561 อินเดียได้ลงนามสัญญามูลค่า 5.5 พันล้านดอลลาร์กับรัสเซีย เพื่อจัดซื้อระบบขีปนาวุธพื้นสู่อากาศพิสัยไกล S-400 Triumf จำนวน 5 เครื่อง ซึ่งทางการอินเดียระบุว่า มีความจำเป็นต่อการต่อต้านภัยคุกคามจากจีน

ด้านเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย กล่าวในแถลงการณ์ที่เผยแพร่ในวันนี้ว่า อินเดียไม่ยอมทำตามข้อเรียกร้องของสหรัฐฯ ที่ต้องการให้อินเดียหยุดซื้อทรัพยากรจากรัสเซีย และรัสเซีย “รู้สึกขอบคุณ”

ถ้อยแถลงดังกล่าวของเจ้าหน้าที่รัสเซียมีขึ้นหลังจากที่ นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย กล่าวกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เมื่อวันจันทร์ (1 ก.ย.) ว่า อินเดียและรัสเซียยืนหยัดเคียงข้างกันแม้ในยามยาก หลังจากที่ปูตินยกย่องโมดีว่าเป็น “เพื่อนรัก” ในระหว่างที่ผู้นำทั้งสองพบปะหารือนอกรอบการประชุมสุดยอดองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (SCO) ในประเทศจีน

สถาบันวิจัยสันติภาพนานาชาติสตอกโฮล์มระบุว่า รัสเซียครองสัดส่วน 36% ของการนำเข้าอาวุธยุทโธปกรณ์ของอินเดียในช่วงปี 2563-2567 ขณะที่ฝรั่งเศสคิดเป็น 33% และอิสราเอลคิดเป็น 13%

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ก.ย. 68)