
จากกรณีเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2568 ผู้ใช้งานจำนวนมากประสบปัญหาระบบแอปพลิเคชันโมบายแบงก์กิง (Mobile Banking) ของธนาคารกรุงเทพ [BBL] ขัดข้อง ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบยอดเงินหรือทำธุรกรรมได้ โดยมีผู้บริโภคบางส่วนพบว่ายอดเงินในบัญชีหายไป บางรายยอดเงินติดลบ ขณะที่ธนาคารกรุงเทพได้ประกาศผ่านเพจทางการว่าจะเร่งแก้ไขให้แล้วเสร็จภายในเวลา 14.00 น. ของวันที่ 2 กันยายน 2568 แต่ล่าสุดในวันที่ 3 กันยายน 2568 แม้บนหน้าเพจทางการและจากการสอบถามคอลเซนเตอร์ของธนาคารจะแจ้งว่าได้แก้ไขและปรับปรุงระบบเรียบร้อยแล้ว แต่กลับยังพบว่ามีผู้บริโภคอีกจำนวนหนึ่งที่ไม่ได้รับการแก้ไขตามที่ธนาคารชี้แจง
พร้อมทั้งเรียกร้องให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแล ตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการตามกฎหมาย ทั้งนี้ ธปท. ได้ออกหลักเกณฑ์กำกับดูแลความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology Risk) ตั้งแต่ปี 2566 โดยกำหนดให้สถาบันการเงินต้องดูแลระบบ Mobile Banking ไม่ให้หยุดชะงักเกิน 8 ชั่วโมงต่อปี และต้องรายงานผลการประเมินตนเองต่อ ธปท.
“หลักเกณฑ์ดังกล่าวอาจไม่เพียงพอ เนื่องจากเกณฑ์ 8 ชั่วโมงไม่สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันที่ใช้บริการออนไลน์มากขึ้น และสังคมได้ก้าวเข้าสู่สังคมไร้เงินสดแล้ว เหตุขัดข้องครั้งนี้ที่ยาวนานเกินเกณฑ์จึงส่งผลกระทบต่อการใช้บริการพื้นฐานของผู้บริโภคจำนวนมาก หลายรายไม่สามารถชำระค่าอาหารหรือทำธุรกรรมจำเป็นได้ อีกทั้งยังไม่มีการแจ้งเตือนจากธนาคารว่าระบบกำลังประสบปัญหา” นายโชติวิทย์ ระบุ
ขณะเดียวกันจากการรายงานของ ธปท. เกี่ยวกับสถิติระบบเทคโนโลยีสารสนเทศขัดข้องของธนาคารพาณิชย์ ระบุว่าในปี 2567 แอปฯ ธนาคารกรุงเทพ เคยขัดข้องรวม 4 ครั้ง โดยไตรมาส 4/2567 ขัดข้อง 2 ครั้ง นานครั้งละ 1 ชั่วโมง ไตรมาส 3/2567 ขัดข้อง 1 ครั้ง น้อยกว่า 1 ชั่วโมง และไตรมาส 1/2567 ขัดข้อง 1 ครั้ง น้อยกว่า 1 ชั่วโมง ส่วนในปี 2568 เคยขัดข้องแล้ว 1 ครั้งในไตรมาส 2 เป็นเวลาประมาณ 22 นาที
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ก.ย. 68)