
อาจารย์ภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ จัดคอร์สออนไลน์ “แผ่นดินไหว ธรณีพิโรธที่น่ากลัว” เฝ้าระวังรอยเลื่อนมีพลังในไทย ชี้ชั้นดินเหนียวแอ่งตะกอนกรุงเทพฯ ดูดซับและขยายแรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหว แนะ Cell Broadcast แจ้งเตือนภัยพิบัติ ลดความสูญเสียในอนาคต
เหตุแผ่นดินไหวขนาด 8.2 ที่มีจุดศูนย์กลางที่เมืองมัณฑะเลย์ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เมื่อวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม 2568 ส่งผลให้ผู้ที่อยู่อาศัยในกรุงเทพมหานครที่รับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือน อาคารสูงหลายแห่งไหวเอน เกิดรอยแตกร้าว รวมถึงโศกนาฏกรรมตึกถล่มที่ฝังหลายชีวิตไว้ใต้ซากปรักหักพัง นับเป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่หลายคนกล่าวว่าเป็น “ครั้งแรกในชีวิต” ไม่มีใครคาดคิดว่ากรุงเทพมหานครจะรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้มากขนาดนี้
“ครั้งนี้เป็นบทเรียนครั้งสำคัญที่ทำให้เรารู้ว่าการเกิดแผ่นดินไหวเป็นอย่างไร” ศาสตราจารย์ ดร.ปัญญา จารุศิริ หัวหน้ากลุ่มวิจัยธรณีวิทยาแผ่นดินไหวและธรณีแปรสัณฐาน ภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าว “เหมือนกับการเกิดสึนามิที่หากเกิดขึ้นอีก เป็นครั้งที่สอง ผมเชื่อว่าคนจะตายน้อยลง ครั้งนี้ที่เกิดแผ่นดินไหว เราโกลาหลกันมาก บางคนสติแตก ไม่รู้จะทำอย่างไรดี แต่ต่อไป เมื่อเกิดเหตุขึ้นอีก จะมีคนตายน้อยลง เพราะเราตระหนักแล้ว”
แผ่นดินไหวครั้งที่ผ่านมาอาจทำให้หลายคนตระหนกก็จริง แต่จากนี้ไป เราต้องเพิ่มความตระหนัก ความรู้ และมาตรการเตือนภัยและรับมือสถานการณ์ให้ดียิ่งขึ้น เนื่องจากแผ่นดินไหวครั้งนี้จะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย! “แผ่นดินไหวขนาด 8 กว่าน่าจะมีโอกาสเกิดขึ้นได้อีก” ศ. ดร.ปัญญากล่าว
เมื่อ 2 ปีที่แล้ว (พ.ศ.2565) ศ. ดร.ปัญญา ได้นำเสนอและเปิดคอร์สออนไลน์ “แผ่นดินไหว ธรณีพิโรธที่น่ากลัว” บนแพลตฟอร์ม CHULA MOOC เพื่อให้นิสิตและประชาชนผู้สนใจทั่วไปสามารถสมัครเข้าเรียนได้ฟรี โดยเนื้อหาในคอร์สมี 12 เรื่องครอบคลุมสาระตั้งแต่แผ่นดินไหวเกิดจากอะไร รอยเลื่อนมีพลังคืออะไรการประเมินพื้นที่ในประเทศไทยที่เสี่ยงกับแผ่นดินไหว ตลอดจนแนวทางปฏิบัติก่อนเกิดแผ่นดินไหว ขณะเกิดแผ่นดินไหว และหลังเกิดแผ่นดินไหว เป็นต้น
อ่านบทความฉบับสมบูรณ์ได้ที่ https://www.chula.ac.th/highlight/241197/
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ก.ย. 68)