
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยถึงกระบวนการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ย.) ว่า คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงจะแล้วเสร็จ เนื่องจากต้องใช้เวลาในการขานชื่อสมาชิกเป็นรายบุคคล ส่วนจะเลื่อนวาระขึ้นมาพิจารณาก่อนเป็นลำดับแรกหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับสมาชิกจะเป็นผู้เสนอ
ทั้งนี้ไม่จำเป็นที่ผู้ถูกเสนอชื่อ จะต้องแสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุม เพราะในระเบียบและกฎหมายไม่ได้กำหนดไว้ ซึ่งต่างจากการลงมติเลือกประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎรที่ต้องแสดงวิสัยทัศน์แนวทางในการทำงาน รวมถึงไม่จำเป็นต้องเปิดโอกาสให้สมาชิกได้อภิปรายถึงคุณสมบัติ และนโยบายของผู้ที่ถูกเสนอชื่อด้วย เพราะท้ายที่สุดแล้ว เมื่อมี ตั้งรัฐบาลเรียบร้อยแล้วจะต้องมีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ก็สามารถใช้โอกาสนั้น ในการอภิปรายแสดงความคิดเห็นและให้ข้อเสนอแนะกับรัฐบาลได้
ส่วนกรณีที่มีการเปลี่ยนขั้วทางการเมือง ไม่มีผลต่อตำแหน่งประธานและรองประธานสภาฯ นายวันมูหะมัดนอร์ ระบุว่า รัฐธรรมนูญกำหนดว่าต้องเป็น สส. ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับฝ่ายบริหาร ยกตัวอย่าง เมื่อครั้งเปลี่ยนขั้วรัฐบาลจากพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นนายชวน หลีกภัย ตนเองก็ยังทำหน้าที่ประธานสภาฯ ต่อ แต่เมื่อต้องไปทำหน้าที่เลขาธิการพรรคความหวังใหม่ จึงมีความจำเป็นต้องลาออกเพื่อความเป็นกลาง ส่วนรองประธานที่เหลืออีกสองคนยังคงทำหน้าที่เดิมต่อไป อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในขณะนั้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ก.ย. 68)