ความเคลื่อนไหวทางการเมือง ยังคงต้องติดตามการจัดโผ ครม. “อนุทิน 1” ตลอดทั้งสัปดาห์นี้ แต่เชื่อว่าจะได้เห็นโฉมหน้า ครม.ชุดใหม่ ภายใต้การนำของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้อย่างเร็วสุดคือในสัปดาห์หน้า ซึ่งล่าสุด นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ได้ส่งรายชื่อบุคคล เพื่อตรวจสอบประวัติตามรัฐธรรมนูญครบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะใช้เวลาประมาณ 7-10 วัน ในการตรวจสอบคุณสมบัติบุคคลที่จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาล “อนุทิน 1” เพื่อให้มั่นใจที่สุดว่าจะไม่มีบุคคลใดที่มีคุณสมบัติต้องห้าม และทำให้เป็นปัญหากระทบต่อนายกรัฐมนตรี และ ครม.ทั้งคณะ
โดยรอบนี้ จะมีรัฐมนตรีคนนอก ประกอบด้วย รมว.-รมช.คลัง, รมว.พาณิชย์, รมว.พลังงาน, รมว.ต่างประเทศ, รมว.กลาโหม และรมว.ยุติธรรม และนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกระทรวงด้านเศรษฐกิจ เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายเร่งด่วนที่ต้องการจะฟื้นเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของประเทศ
ซึ่งนโยบายที่ถูกจับตามากที่สุดในขณะนี้ คือ “โครงการคนละครึ่ง” เพราะที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จ และได้ผลตอบรับเป็นอย่างดีในสมัยรัฐบาล “ลุงตู่” จนมีกระแสเรียกร้องให้ นายกฯ หนู นำกลับมาปัดฝุ่นใหม่อีกครั้ง ซึ่งขณะนี้ทุกฝ่ายกำลังเร่งเตรียมพร้อมงานหลังบ้าน โดยมีโอกาสสูงที่จะเริ่มเห็นโครงการ “คนละครึ่ง” ของรัฐบาลภูมิใจไทยได้ ในเดือนต.ค.นี้
หลังจากศาลรัฐธรรมนูญ มีมติว่ารัฐสภามีอำนาจจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ได้ แต่ต้องให้ประชาชนออกเสียงประชามติเห็นชอบก่อน ว่าสมควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ ซึ่งในประเด็นการทำประชามตินั้น ตุลาการเสียงข้างมาก เห็นว่าต้องทำประชามติทั้งหมด 3 ครั้ง
แต่ประเด็นที่ต้องจับตา ในคำวินิจฉัยที่เพิ่มเข้ามา คือ “รัฐสภา ไม่อาจให้ประชาชนเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญได้โดยตรง” เหมือนจะเป็นคำวินิจฉัยที่ส่งแรงกระเพื่อมไปถึง MOA ที่พรรคประชาชน และพรรคภูมิใจไทย ได้ทำร่วมกันไว้ ซึ่งมีข้อตกลงร่วมกันว่า “ครม.ชุดใหม่ ต้องจัดให้มีการออกเสียงประชามติในประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี 60 เพื่อนำไปสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากการเลือกตั้งโดยเร็ว”
โดยเรื่องนี้ หัวหน้าพรรคประชาชน มองว่า คำวินิจฉัยดังกล่าว อาจยังไม่ได้ปิดประตูต่อการมี สสร.ที่มาจากการเลือกตั้ง เนื่องจากรัฐสภาสามารถออกแบบกลไกให้ สสร. ส่งร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ สสร. จัดทำมาที่รัฐสภา ก่อนส่งไปทำประชามติกับประชาชนได้ ดังนั้นคงต้องจับตาว่า พรรคประชาชน จะเดินหน้าแก้ปมนี้ต่ออย่างไร
กิจกรรมด้านเศรษฐกิจและธุรกิจ
- ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย ของเดือนส.ค.68 โดยนายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ
- สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ชี้แจงเพิ่มเติมในเรื่องผลตรวจสอบ ICAO USOAP
- บมจ. ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) แถลงข่าว WHA: 2H Business Outlook 2025 Theme: Beyond Challenges, Unlocking the Future อัปเดตผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก และเจาะลึกทิศทางธุรกิจเชิงกลยุทธ์ สำหรับครึ่งหลังของปี 2568
- บมจ.ซินเน็ค (ประเทศไทย) SYNNEX โดย น.ส.สุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดวิสัยทัศน์ ในงาน “SYNNEX PARTNER CONNECT 2025” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “CRAFTING A SMARTER FUTURE” พร้อมเจาะลึก “วิสัยทัศน์และกลยุทธ์ธุรกิจ” และไฮไลท์การเติบโตของบริษัทฯ ในยุคที่ AI มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเทคโนโลยี และการเปลี่ยนผ่านสู่อนาคต
- Thai Lion Air โดยผู้บริหาร ร่วมอัพเดทข้อมูล และแนวโน้มการดำเนินธุรกิจสายการบิน
ภารกิจผู้บริหารกรุงเทพมหานคร (กทม.)
- หลังมีกระแสข่าวว่า พรรคเพื่อไทย เล็งทาบทาม “ผู้ว่าฯ ชัชชาติ” ให้มาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) คนใหม่นั้น ล่าสุด นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ดับกระแสข่าวลือเป็นที่เรียบร้อย ปิดประตูการเมืองระดับชาติ โดยยืนยันกับคนใกล้ชิดแล้วว่าจะไม่กลับไปเล่นการเมืองระดับประเทศ แต่จะขอมุ่งมั่นทำงานในตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. ตามที่ได้รับความไว้วางใจจากคนกรุงเทพฯ ต่อไป
- นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. เป็นประธานในพิธีมอบประกาศเกียรติคุณให้แก่ผู้ที่เกษียณอายุราชการของกทม. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ณ ห้องบางกอก ชั้นบี 2 อาคารไอราวัตพัฒนา กทม. 2
- จากนั้น ผู้ว่าฯ กทม. เป็นประธานในพิธีมอบประกาศเกียรติคุณ ให้แก่ผู้ที่เกษียณอายุราชการของ กทม. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 (ลูกจ้างประจำ) ณ ห้องบางกอก ชั้นบี 2 อาคารไอราวัตพัฒนา กทม.2
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ก.ย. 68)
