
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาชน ในฐานะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกันระหว่างตัวแทน 3 พรรคการเมือง ประกอบด้วย พรรคประชาชน พรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย โดยมี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว และนายจาตุรนต์ ฉายแสง เป็นตัวแทนจากพรรคภูมิใจไทย, นายภราดร ปริศนานันทกุล ตัวแทนจากพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วย สว. ได้แก่ นายนรเศรษฐ์ ปรัชญากร และนายเทวฤทธิ์ มณีฉาย รวมถึงภาคประชาชน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และสำนักกฎหมาย สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เพื่อหารือถึงแนวทางต่อไปในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย
โดยที่ประชุม มีข้อสรุป 3 แนวทาง ซึ่งถือเป็นสัญญาประชาคมที่ถูกบันทึกไว้ในกรรมาธิการ คือ
1. ทั้ง 3 พรรคเห็นตรงกันว่า สามารถเดินหน้าจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยทำประชามติ 2 รอบ ด้วยการเริ่มต้นให้รัฐสภา พิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ หมวด 15/1 เกี่ยวกับกลไกการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งเมื่อผ่านความเห็นชอบของรัฐสภา 3 วาระแล้ว ก็จัดทำประชามติรอบแรก
สำหรับคำถามประชามติ คำถามที่ 1 คือ เห็นควรให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ และ 2.เห็นด้วยกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ หมวด 15/1 เกี่ยวกับกลไกการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่รัฐสภาเห็นชอบมาหรือไม่ และเมื่อมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จแล้ว จะนำมาสู่การทำประชามติในรอบที่ 2 เพื่อถามว่า ประชาชนเห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ ซึ่งจะสอดคล้องกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวานนี้
2. กระบวนการดังกล่าว สามารถเดินหน้าเพื่อให้มีการจัดทำประชามติรอบแรก ทันกับการเลือกตั้งภายในกรอบเวลา MOA หรือคือการยุบสภาภายใน 4 เดือน หลังแถลงนโยบายต่อรัฐสภา
นายพริษฐ์ ยกตัวอย่างสมมติว่า มีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในช่วงปลายเดือนก.ย. จะหมายความว่าต้องมีการยุบสภาภายในปลายเดือนมกราคม ซึ่งทุกพรรคเห็นตรงกันว่าสามารถเดินหน้ายื่น และพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด 15 ได้เลย และเมื่อผ่านวาระ 1 ไปแล้ว คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จ สามารถส่งกลับมาได้ในวาระที่ 2 ช่วงเดือนธ.ค. จะทำให้สามารถให้ความเห็นชอบในวาระที่ 3 ได้ภายในปลายเดือนธ.ค. ซึ่งทำให้มีเวลาในเดือนม.ค.ที่จะสามารถเคาะวันการจัดทำประชามติ เพื่อเกิดขึ้นพร้อมกับเมื่อมีการยุบสภาภายในไม่เกินปลายเดือนม.ค. ซึ่งตามกรอบระยะเวลา 4 เดือน จะสามารถจัดทำประชามติรอบแรก พร้อมกับการเลือกตั้งได้
3. แต่ละพรรคจะไปหารือกันภายใน เพื่อทบทวนหรือจัดทำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในหมวด 15/1 ขึ้นให้สอดคล้องกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งคงเป็นข้อถกเถียงภายในแต่ละพรรคว่าจะถูกตีความว่าอย่างไร จะส่งผลกระทบต่อข้อเสนอในการมีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) อย่างไร และแต่ละพรรค จะเสนอกลไกจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อย่างไร ให้มีความยึดโยงกับประชาชนและให้ประชาชนมีส่วนร่วม โดยตั้งเป้าว่าในสัปดาห์หน้า จะให้ทั้ง 3 พรรค มานำเสนอแนวคิดหรือร่างของตัวเองในกรรมาธิการต่อไป
ขณะที่ฝ่าย กกต. ได้ยืนยันว่า สามารถดำเนินงานตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดได้
นายพริษฐ์ ยืนยันว่า ร่างของพรรคประชาชนสามารถเสร็จทันสัปดาห์หน้า และจากที่พูดคุยกับตัวแทนพรรคเพื่อไทย เห็นว่าสามารถทำให้ทันภายในสัปดาห์หน้าได้ ขณะที่พรรคภูมิใจไทย มีคำยืนยันจากนายภราดรว่า จะมีการจัดทำโดยเร็ว จึงหวังว่าสัปดาห์หน้า จะเห็นร่างของทั้ง 3 พรรค เพื่อยื่นเข้าสู่ระเบียบวาระประชุม และเปิดการพิจารณาวาระที่ 1 ได้โดยเร็ว
สำหรับข้อกังวลที่อาจจะไปติดขัดในชั้น สว. นั้น นายพริษฐ์ กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของทุกพรรคในการพูดคุยทำความเข้าใจ และโน้มน้าวให้ สว.เห็นชอบกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าว เพราะแน่นอนว่าการจะผ่านวาระ 1 ไปได้นั้น ต้องอาศัยเสียง 1 ใน 3 ของ สว.ด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ก.ย. 68)