ขุนคลังญี่ปุ่น-สหรัฐฯ เห็นพ้องควรให้ค่าเงินเคลื่อนไหวตามกลไกตลาด

คัตสึโนบุ กาโตะ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่น และสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ได้ออกแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในวันนี้ (12 ก.ย.) หลังเสร็จสิ้นการเจรจาภาษีศุลกากรระดับทวิภาคี โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะยังคงหารือกันอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับค่าเงิน เพื่อให้แน่ใจว่าตลาดปริวรรตเงินตรายังคงมีเสถียรภาพ

ในแถลงการณ์ร่วมครั้งนี้ กาโตะและเบสเซนต์ยืนยันว่าอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศควรถูกกำหนดโดยกลไกตลาด พร้อมเสริมว่า “อัตราแลกเปลี่ยนที่มีความผันผวนมากเกินไปและเคลื่อนไหวอย่างผิดปกติอาจก่อให้เกิดผลกระทบในทางลบ”

นอกจากนี้ กาโตะและเบสเซนต์เห็นพ้องว่า การเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราจะดำเนินการได้ก็ต่อเมื่อจำเป็นต้องรับมือกับความผันผวน รวมถึงเมื่อสกุลเงินอ่อนค่าหรือแข็งค่าอย่างผิดปกติ

แถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อวันที่ 4 ก.ย. เพื่อบังคับใช้ข้อตกลงทางการค้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ ได้บรรลุร่วมกับญี่ปุ่นในเดือนก.ค.อย่างเป็นทางการ

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ในขณะที่ผู้เจรจาของทั้งสองประเทศยังคงเดินหน้าเจรจาเรื่องภาษีศุลกากร กาโตะและเบสเซนต์ได้จัดการประชุมหลายครั้งเพื่อหารือกันเกี่ยวกับประเด็นอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

ที่ผ่านมานั้น ปธน.ทรัมป์ซึ่งต้องการลดการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น และกล่าวหาว่าญี่ปุ่นจงใจทำให้เงินเยนอ่อนค่าลง ขณะที่ญี่ปุ่นปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว

นอกจากนี้ ในแถลงการณ์ดังกล่าว รัฐมนตรีคลังของทั้งสองประเทศยังได้ยืนยันร่วมกันว่า นโยบายการคลังและการเงินจะไม่มุ่งเป้าไปที่อัตราแลกเปลี่ยนเพื่อวัตถุประสงค์ในการแข่งขัน ตามที่มีการตกลงกันไว้ในกลุ่มประเทศ G7

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ก.ย. 68)