ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ แห่งฟิลิปปินส์ ประกาศกร้าวว่าจะไม่มีการละเว้นผู้ใดในการสอบสวนคดีทุจริตโครงการโครงสร้างพื้นฐานครั้งใหญ่ พร้อมให้คำมั่นว่าจะเรียกศรัทธาของประชาชนกลับคืนมา ท่ามกลางกระแสเตรียมชุมนุมใหญ่ต่อต้านคอร์รัปชัน
ผู้นำฟิลิปปินส์ได้แต่งตั้งอดีตผู้พิพากษาศาลฎีกาเข้ามาเป็นหัวหน้าคณะกรรมการชุดพิเศษ และยืนยันว่าจะจัดการกับผู้กระทำผิดทุกรายโดยไม่คำนึงว่าเป็นใคร หลังจากที่การไต่สวนของรัฐสภาได้พาดพิงถึงนักการเมืองผู้ทรงอิทธิพลไปแล้วหลายคน
“ไม่มีทางอื่น… จะไม่มีใครรอดพ้นไปได้” มาร์กอสกล่าวระหว่างการแถลงข่าวทางโทรทัศน์วันนี้ (15 ก.ย.) โดยระบุว่าการสอบสวนครั้งนี้จะเป็น “จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ” ของการบริหารงานและใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดิน
คณะกรรมการชุดนี้จะเข้ามาสอบสวนการทุจริต โดยพุ่งเป้าไปที่โครงการป้องกันน้ำท่วมที่อื้อฉาว ซึ่งถูกตรวจสอบอย่างหนักหลังเกิดอุทกภัยรุนแรงในหลายเมืองตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา
มาร์กอสได้แฉถึงงบประมาณป้องกันน้ำท่วมกว่า 5.45 แสนล้านเปโซ (9.52 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ตั้งแต่ปี 2565 ว่าเต็มไปด้วยความไม่ชอบมาพากล หลายโครงการไม่มีการก่อสร้างจริง และมีบริษัทรับเหมาเพียง 15 แห่งที่ได้ส่วนแบ่งงบประมาณไปถึง 20% จนจุดชนวนความโกรธแค้นในสังคมต่อ “การคอร์รัปชันที่เกินจะรับได้”
เพื่อแสดงความจริงจัง ประธานาธิบดีมาร์กอสได้สั่งยกเลิกโครงการป้องกันน้ำท่วมทั้งหมดของปี 2569 และอนุมัติให้โยกงบประมาณดังกล่าวไปใช้ในด้านการศึกษา สาธารณสุข และการเกษตร
การประกาศครั้งนี้มีขึ้นขณะที่กลุ่มประชาสังคมและแกนนำศาสนาได้วางแผนจัดชุมนุมต่อต้านการทุจริตในวันที่ 21 ก.ย. ซึ่งตรงกับวันครบรอบการประกาศกฎอัยการศึกโดยอดีตผู้นำ เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ซีเนียร์ ผู้เป็นบิดา ซึ่งเป็นยุคมืดที่ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของประเทศ
“ถ้าผมไม่ได้เป็นประธานาธิบดี ผมอาจจะลงถนนไปกับพวกเขาด้วย” มาร์กอส ผู้เป็นบุตรชายของอดีตผู้นำเผด็จการกล่าว พร้อมเรียกร้องให้ผู้ชุมนุมเคลื่อนไหวอย่างสันติ หลังจากเกิดเหตุประท้วงรุนแรงขึ้นในเนปาลและอินโดนีเซีย
“จงแสดงความรู้สึกของพวกท่านออกมา” มาร์กอสกล่าว “ทำให้คนเหล่านั้นต้องออกมารับผิดชอบต่อสิ่งที่ทำลงไป”
ทั้งนี้ มาร์กอสเตือนว่าอย่าดึงเรื่องนี้ไปเป็นการเมือง เพราะแก่นแท้ของปัญหาคือความรับผิดชอบและความโปร่งใส
“อย่าทำให้เป็นเรื่องการเมือง นี่เป็นเรื่องของตัวเลขล้วน ๆ” มาร์กอสกล่าว “เราต้องสาวไส้ให้ได้ว่าเงินหลวงถูกพวกคนโกงขโมยไปเท่าไหร่ นี่คือสิ่งที่เราต้องเปิดโปงและถอนรากถอนโคนให้สิ้นซาก”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ก.ย. 68)
