
นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.การบินไทย [THAI] เปิดเผยว่า ฝ่ายบริหารบริษัทฯได้เตรียมเสนอคณะกรรมการบริษัทเกี่ยวกับการทำการเช่าเครื่องบินลำตัวกว้าง จำนวน 8-10 ลำ ในการประชุมวันที่ 18 ก.ย.นี้ โดยระยะเวลาการเช่า 6-8 ปี เพื่อรองรับการบินระยะไกล
ก่อนหน้านี้ นายชาย ระบุว่าในช่วงปี 68-70 การบินไทยยังไม่ได้รับรับมอบเครื่องบินขนาดลำตัวกว้างจากโบอิ้ง ผู้ผลิตเครื่องบินใหม่โบอิ้ง 787 ที่บริษัทได้สั่งซื้อไว้ 45 ลำ ซึ่งจะทยอยรับเข้ามาตั้งแต่ต้นปี 71 จึงจำเป็นที่จะต้องจัดหาเครื่องบินลำตัวกว้างมาใช้ทำการบินไปก่อน ขณะที่เครื่องบินแอร์บัส A321 NEO ซึ่งเป็นเครื่องบินลำตัวแคบ บริษัทจะทยอยรับมอบ 17 ลำ ซึ่งในปีนี้รับมอบ 2 ลำและปีหน้า 15 ลำ
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/68 ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร THAI กล่าวว่า แม้ว่าในไตรมาส 3 จะอยู่ในช่วงโลว์ซีซั่น แต่ทิศทางยังเติบโตได้ดี โดยอัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ยใกล้ 80% โดยเส้นทางยุโรป ก็ยังมีการเติบโตดีต่อเนื่อง
ขณะที่เงินบาทแข็งค่าในปัจจุบัน บริษัทไม่ได้รับผลกระทบ เพราะมีรายรับเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นส่วนใหญ่ และมีรายจ่ายเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐด้วยในเวลาเดียวกัน
ส่วนความคืบหน้าโครงการลงทุนศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน (MRO) ของการบินไทย ที่จะร่วมทุนกับ บมจ.กรุงเทพการบิน [BA] นั้น นายชาย กล่าวว่า บริษัทเตรียมยื่นหนังสือต่อสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรือ EEC ในเดือนก.ย.นี้เพื่อขอเช่าใช้พื้นที่จำนวน 210 ไร่ในอู่ตะเภา เพื่อดำเนินโครงการ MRO เพราะไม่ได้อยู่ในสถานะรัฐวิสาหกิจแล้ว คาดว่าจะได้ความชัดเจนไม่เกินสิ้นปีนี้
ส่วนที่บริษัทจะร่วมลงทุนกับ BA จัดตั้งเป็นบริษัท่ใหม่ หรือแยกกันทำในพื้นที่เดียวกันจะมีการหารือต่อไป โดยในส่วนการบินไทย ได้จัดงบประมาณการลงทุนไว้ 1 หมื่นล้านบาทลงทุน MRO
ร้าน PUFF & PIE ของการบินไทยได้จับมือโครงการพัฒนาดอยตุง มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดตัวกาแฟทางเลือใหม่ภายใต้แนวคิด “From Farm to Cup-ดื่มด่ำกาแฟจากผืนป่าสู่มือคุณ” ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ชื่นชอบกาแฟคุณภาพสูงควบคู่การใส่ใจสิ่งแวดล้อม รวมทั้งมีเสริฟบนเครื่องแล้ว กาแฟที่นำมาใช้เป็นเมล็ดกาแฟอาราบิก้า 100% จากดอยตุง โดดเด่นด้วยรสชาติโทนนัตตี้และช็อคโกแลต ผ่านกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและได้รับการรับรองเป็น Carbon Neutral Coffee โดยมีการตรวจวันและชดเชยปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างครบถ้วนตลอดห่วงโซ่การผลิต
พร้อมเปิดตัว Signature Menu 5 เมนูพิเศษ อาทิ “Coco Coff on Cloud” ซึ่งนำเอสเปรโซ่เข้มข้นมาผสานกับความหอมนุ่มของครีมมะพร้าวและฟองนมอัญชันสีฟ้า โดยจะเสิร์ฟตั้งแต่เดือนต.ค.68 เป็นต้นไป
นายชาย กล่าวว่า กาแฟซิกเนเจอร์ และ เบเกอร์รี่เมนูพิเศษ ที่ร่วมกันสร้างสรรค์เป็นการต่อยอดแนวคิดเพื่อโลกที่ยั่งยืน ผสมผสานเอกลักษณ์ของการบินไทยเข้ากับ Carbon Nueutral Coffee ของดอยตุง และวัตถุดิบที่สะท้อนความภูมิใจของชุมชน นี่คือสัญญลักษณ์ของความร่วมมือที่สร้างทั้งรสชาติที่ดี และคุณค่าที่ดีต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมในเวลาเดียวกัน
การบินไทย สั่งซื้อเมล็ดกาแฟกับดอยตุง ประมาณ 1 ใน 4 ของกำลังการผลิตของดอยตุง นอกจากนี้ การบินไทยก็ยังสนับสนุนสินค้าจากดอยคำ มูลนิธิขัยพัฒนา เพื่อส่งเสริมสินค้าไทยและต่อยอดความเป็นไทย อย่างไรก็ดี กำลังการผลิตก็ยังมีข้อจำกัด
นายชาย กล่าวว่า การบินไทยได้ปรับการใช้ภาชนะบนเครื่องแบบรักษ์โลกมากขึ้น รวมไปถึงเครื่องแบบของพนักงาน อย่างไรก็ดี การนำน้ำมัน SAF มาใช้จำเป็นต้องเริ่มที่หน่วยงานภาครัฐในการบังคับใช้พร้อมกันทุกสายการบิน เพราะหากสายการบินใดสายการบินหนึ่งดำเนินการก็จะมีข้อเสียเปรียบ เนื่องจากราคาน้ำมัน SAF มีราคาสูงกว่าราคาน้ำมันอากาศยาน 3-4 เท่า ขณะที่ สายการบินที่บินไปฝั่งยุโรปจะถูกบังคับใช้น้ำมัน SAF ที่ผสมเข้าไปอยู่แล้ว จึงไม่ได้เสียเปรียบ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ก.ย. 68)