
นายสุรวัฒน์ สุวรรณยั่งยืน ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มงานบัญชีและการเงิน บมจ.ดับบลิว เอส โอ แอล [WSOL] เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับสถาบันการเงินว่า บริษัทอยู่ระหว่างดำเนินการวางแผนร่วมกับสถาบันการเงินอย่างใกล้ชิดผ่านการเจรจาเพื่อขออนุมัติแผนการปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ ทั้งเงินกู้ยืมระยะสั้นและเงินกู้ยืมระยะยาว ซึ่งขณะนี้มีแนวโน้มการเจรจาเป็นบวก คาดว่าจะได้ข้อสรุปไม่เกินไตรมาส 4/68
เงินกู้ยืมระยะสั้น บริษัทมียอดคงเหลือกับสถาบันการเงิน จำนวน 86.3 ล้านบาท ณ วันที่ 30 มิ.ย.68 ซึ่งครบกำหนดชำระตั้งแต่เดือน มิ.ย.67 ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการเจรจาเพื่อขออนุมัติแผนการชำระหนี้ใหม่จากสถาบันการเงิน
เงินกู้ยืมระยะยาว บริษัทมียอดคงเหลือกับสถาบันการเงิน จำนวน 927.7 ล้านบาท ณ วันที่ 30 มิ.ย.68 ทั้งนี้ตามเงื่อนไขการขยายเวลาชำระหนี้เมื่อวันที่ 28 ส.ค.67 กำหนดให้ชำระดอกเบี้ยรายเดือน และเริ่มชำระคืนเงินต้นตั้งแต่เดือนส.ค. 2569 ซึ่งบริษัทได้ขอพักการชำระดอกเบี้ยตั้งแต่เดือน พ.ค.68 และอยู่ระหว่างเจรจาปรับโครงสร้างหนี้เพื่อขออนุมัติแผนการปรับโครงสร้างหนี้ใหม่
“การเจรจากับสถาบันการเงินในครั้งนี้ เป็นการดำเนินงานเชิงรุกเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ให้เหมาะสมกับฐานะทางการเงินของบริษัทในปัจจุบันและเพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจ เพื่อสร้างกระแสเงินสด ตลอดจนการเติบโตขององค์กรในระยะยาว ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบต่อสถาบันการเงิน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย การได้รับการสนับสนุนจากสถาบันการเงินในครั้งนี้ ถือเป็นสัญญาณบวกที่สะท้อนถึงความเชื่อมั่นต่อศักยภาพของบริษัท
จากระยะเวลากว่าหนึ่งปีที่ทีมผู้บริหารชุดใหม่เข้ามาบริหารจัดการ บริษัทได้เจรจากับเจ้าหนี้หลายราย โดยมีทั้งที่ตกลงร่วมกันได้แล้ว และบางรายยังอยู่ในขั้นตอนการเจรจา แต่สิ่งที่เรายึดมั่นเสมอคือหลักการสร้างความเท่าเทียม โดยเจ้าหนี้ที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันและเจ้าหนี้ที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันจะได้รับการพิจารณาอยู่บนพื้นฐานเดียวกัน เพื่อให้ทุกฝ่ายเดินหน้าไปด้วยกันอย่างเป็นธรรม เราเชื่อมั่นว่าการฟื้นฟูกิจการแม้จะเป็นโจทย์ที่ท้าทาย แต่ทุกฝ่ายก็มีความมุ่งมั่นที่จะทำอย่างเต็มที่เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหุ้น ผู้ถือหุ้นกู้ และผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย” นายสุรวัฒน์ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าดำเนินธุรกิจตามแผนที่วางไว้ โดยจะมุ่งพัฒนากลุ่มธุรกิจเดิมที่สร้างรายได้อย่างมั่นคงและต่อเนื่อง พร้อมทั้งเสริมสร้างโครงสร้างทางการเงินที่แข็งแกร่งให้แก่บริษัท เพื่อรองรับการขยายการลงทุนในอนาคต โดยการดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ในครั้งนี้ จะเป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้บริษัทมีความยืดหยุ่นทางการเงิน และสามารถบริหารสภาพคล่องได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ก.ย. 68)