กทม. เข้มทุกมาตรการ! ปลอดภัยต้องมาก่อน ดูแลผลกระทบชาวสามเสนจากเหตุถนนทรุด

นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงการดำเนินการ และมาตรการดูแลประชาชนของกทม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุถนนทรุดบริเวณหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เขตดุสิต เมื่อวันที่ 24 ก.ย.68 ซึ่งเน้นการดูแลอย่างครอบคลุมรอบด้าน ให้ความสำคัญสูงสุดกับความปลอดภัย ความเป็นอยู่ และการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ

 

  • มาตรการด้านวิศวกรรมและความปลอดภัย

กทม. โดยสำนักงานเขตดุสิต สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักการโยธา สำนักการระบายน้ำ ร่วมกับผู้รับจ้างโครงการฯ ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เร่งดำเนินการป้องกันดินสไลด์เพิ่มเติม โดยการเทคอนกรีตเพื่ออุดปากหลุมทางเข้าสถานีรถไฟฟ้า และหาแนวทางป้องกันน้ำฝนไม่ให้ไหลเข้าสู่หลุมที่ทรุดตัว โดยติดตั้งเครื่องสูบน้ำแรงส่งสูง จัดเรียงกระสอบทรายปิดกั้นท่อระบายน้ำในจุดสำคัญใกล้เคียง เพื่อความปลอดภัยทั้งผู้ปฏิบัติงานและประชาชน ก่อนที่จะเร่งดำเนินการแก้ไขฟื้นฟูและคืนผิวจราจรให้กลับมาใช้งานได้ปกติโดยเร็วที่สุดต่อไป

อีกทั้งสำนักการโยธา กทม. ยังได้ใช้อุปกรณ์ Ground Penetrating Radar (GPR) สแกนตรวจหาโพรงใต้ดินตลอดแนวถนนสามเสน ซึ่งผลเบื้องต้นไม่พบความเสี่ยง แต่ กทม. ยืนยันจะติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของประชาชน

  • การช่วยเหลือเยียวยาประชาชน

กทม. ได้จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกการเดินทางเส้นทางถนนโดยรอบ ร่วมกับ สน.สามเสน และดูแลความปลอดภัยการขึ้น-ลงเรือ ร่วมกับกรมเจ้าท่า ส่วนระบบน้ำประปา กลับมาใช้งานได้ตามปกติแล้ว แม้แรงดันในบางจุดจะยังไม่เต็มที่ ขณะเดียวกัน ศูนย์บริการสาธารณสุข 6 และ 38 กรุงเทพมหานคร ได้ลงพื้นที่ประเมินและเยียวยาสภาพจิตใจผู้ได้รับผลกระทบอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้ประชาชน

ทั้งนี้ สำนักงานเขตดุสิต เร่งประชาสัมพันธ์ให้ผู้ได้รับผลกระทบทั้ง ข้าราชการตำรวจ ครอบครัว อาคารพาณิชย์ และบ้านเช่า ลงทะเบียนเพื่อเข้ารับการเยียวยาจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) โดยได้จัดส่งอาหาร-น้ำดื่ม จัดเตรียมที่พักชั่วคราวที่ศูนย์นันทนาการสวนอ้อย เขตดุสิต รวมถึงที่พักอื่น ๆ ซึ่ง รฟม. ช่วยประสานงานและรับผิดชอบดูแล

ทั้งนี้ ผู้ได้รับผลกระทบสามารถติดต่อขอรับการเยียวยาได้ที่

  • หน้าห้องฉุกเฉิน อาคารเพชรรัตน์ รพ.วชิรพยาบาล
  • Line@ : @Dusitbkk

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ก.ย. 68)