ตลาดจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ ประเมินทิศทางดอกเบี้ยเฟด

นักลงทุนในตลาดการเงินจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินแนวโน้มตลาดแรงงานและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)

กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ มีกำหนดเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ย.ในวันศุกร์ที่ 3 ต.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 50,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. หลังจากเพิ่มขึ้นเพียง 22,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.3% ส่วนนักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของรอยเตอร์คาดว่าตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 39,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวระดับ 4.3% เช่นกัน

อย่างไรก็ดี หลายฝ่ายเตือนว่ากระทรวงแรงงานอาจไม่สามารถเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานตามกำหนดในวันศุกร์ที่ 3 ต.ค. หากสหรัฐฯ เผชิญกับการปิดหน่วยงานของรัฐบาล หรือชัตดาวน์ ในช่วงสิ้นเดือนนี้

เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ จะพบปะกับผู้นำระดับสูงของทั้งพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันในสภาคองเครสในวันนี้ (29 ก.ย.) ตามเวลาสหรัฐฯ เพื่อหารือเรื่องการจัดสรรงบประมาณของรัฐบาลก่อนกำหนดเส้นตายวันที่ 30 ก.ย. เพื่อเลี่ยงไม่ให้หน่วยงานรัฐบาลถูกชัตดาวน์

ทั้งนี้ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรถูกจับตาอย่างใกล้ชิด นับตั้งแต่กระทรวงเปิดเผยว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นเพียง 73,000 ตำแหน่งเท่านั้น ส่งผลให้ปธน.ทรัมป์ สั่งปลดเอริกา แมคเอนทาร์เฟอร์ ออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแรงงาน เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว

นอกจากนี้ ในวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ได้เปิดเผยรายงานทบทวนตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร โดยระบุว่า ตัวเลขจ้างงานในช่วงเวลา 1 ปีที่นับจนถึงเดือนมี.ค. 2568 นั้น ลดลง 911,000 ตำแหน่งจากประมาณการเบื้องต้น ซึ่งถือเป็นการปรับลดการประเมินตัวเลขจ้างงานครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่าสองทศวรรษ

เจมี ไดมอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของธนาคารเจพีมอร์แกน เชส (JPMorgan Chase) แสดงความเห็นว่า การที่กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ปรับลดการประเมินตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในช่วงเวลา 1 ปี เป็นสิ่งยืนยันว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังชะลอตัวลง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 ก.ย. 68)